#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

Annual Letter จากวอเร็น บัฟเฟตต์ (ตอนที่ 1)

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
163 views

- ตั้งหน้าตั้งตารอกันสำหรับนักลงทุนผู้ศรัทธาในวอเร็น บัฟเฟตต์ ที่เขาจะเขาจดหมายถึงผู้ถือหุ้นที่รวบรวมคำแนะนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหลักการลงทุน เศรษฐกิจ การเมืองของอเมริกา สถานการณ์รอบโลก ซึ่งบัฟเฟตต์จะเขียนขึ้นปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ถือว่าเป็นจดหมายที่มีมูลค่าสูงมากและมีอิทธิพลอย่างมากสำหรับสื่อในวอลสตรีท

 



- หลักๆแล้ว บัฟเฟตต์ พูดถึงเรื่อง "การซื้อหุ้นคืน" "หนังสือที่ผมชอบอ่าน" และ "คำแนะนำทางการลงทุนที่ทรงคุณค่า"

- สำหรับบทความนี้มีทั้งหมด 2 ตอน ผมจะแยกตอนแรกเป็น การซื้อหุ้นคืน และ หนังสือที่ผมชอบอ่าน ส่วนหัวข้อหลังจะเอาไปไว้ในตอนที่ 2 ครับ

 

การซื้อหุ้นคืน


- ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบริษัทจำนวนมากได้ซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งสื่อในวอลสตรีทวิจารณ์ว่าการซื้อเหล่านี้เป็นเรื่องที่ "พร่ำเพรือ" จนเกินไป โดยสนใจแต่การเร่งผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นระยะสั้น จนละเลยสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะยาว (อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ :http://www.businessinsider.com/whats-a-buyback-and-why-do-some-investors-hate-them-2016-6)

 

เปรียบเทียบผลตอบแทนบริษัทที่ซื้อหุ้นคืนในS&P500 และบริษัททั้งหมดของ S&P500
ที่มาภาพ http://www.zerohedge.com

 

- ปี 2010 - 2015 มีการซื้อหุ้นคืนในบริษัท S&P500 มีมูลค่าสูงถึง $2.1 trillion  ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

- สำหรับบัฟเฟตต์ บัฟเฟตต์คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการพิจารณาซื้อหุ้นคืน และเขาก็ยึดถือมาตลอดว่า การซื้อหุ้นคืนคือเรื่องราวที่ดีที่สุด ที่ผู้บริหารบริษัทจะมอบให้กับผู้ถือหุ้นอย่างจริงใจที่สุด

- แต่เขาเน้นย้ำว่า การซื้อหุ้นคืนจะสมเหตุสมผลก็ต่อเมื่อ บริษัทเล็งเห็นว่าราคาที่ปรากฏในตลาดต่ำกว่ามูลค่าโดยเนื้อแท้จริงๆ

- "แต่ผู้บริหารทุกวันนี้ มีหุ้นอยู่นมือเพียงเล็กน้อย แต่กลับให้บริษัทที่พวกเขาบริหารอยู่ซื้อหุ้นคืนอย่างไม่ระมัดระวัง" บัฟเฟตต์เขียนในจดหมาย แต่มันจะเป็นเรื่องดีถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัทโดยถือหุ้นส่วนใหญ่ และมีผู้ถือหุ้นอยู่ไม่กี่คน การซื้อหุ้นคืนที่ราคาพรีเมี่ยมอาจจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่แบบนั้น

- บริษัททุกบริษัท มีราคาเป้าหมายอยู่แล้ว การซื้อหุ้นคืนไม่ใช่ซื้อได้ทุกราคา 

- บริษัทที่ไม่สมควรซื้อหุ้นคืนเลย มีอยู่ 2 ประเภท คือ 1.บริษัทที่ต้องการใช้เงินไปกับการลงทุนระยะยาว 2. บริษัทที่ต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับการซื้อกิจการอื่นเพื่อการเติบโตที่ดีกว่าในระยะยาว

- อย่างไรก็ตาม ตอนนี้บัฟเฟตต์คิดว่าการซื้อหุ้นคืนของเบิร์กไซด์ เป็นเรื่องยากที่จะทำ แต่ถ้าราคาหุ้นของเบิร์กไซด์ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีซัก 120% ก็ไม่แน่อาจจะมีการพิจารณาซื้อหุ้นคืน

หนังสือที่ผมชอบอ่าน
- ในปีที่ผ่านมา มีหนังสือหลายเล่มที่บัฟเฟตต์ได้อ่าน แต่หนังสือที่เขาคิดว่าดีที่สุด คือ หนังสือเรื่อง  'Shoe Dog' by Nike’s Phil Knight

 

หนังสือ 'Shoe Dog' by Nike’s Phil Knight
ที่มาภาพ : Goodreads

 

- Phill เป็นนักเขียนที่เก่ง และมีลำดับการเล่าเรื่องที่ดีมากๆ 

- หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับการทำหุ้น IPO ของบริษัทไนกี้ ในปี 1980

- บัฟเฟตต์ เล่าว่า เขาไม่อยากเล่าตอนจบ อยากให้นักลงทุนอ่านเอาเอง แต่เขามีข้อคิดที่ได้จากการอ่าน คือ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นจะต้องทำบางสิ่งบางอย่างที่มากกว่าคนทั่วไป และคิดค้นในเรื่องใหม่ก่อนคนอื่นเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ : https://www.gatesnotes.com/About-Bill-Gates/Best-Books-2016)

- นอกจากนี้เขายังแนะนำให้นักลงทุนอ่านหนังสือการลงทุนของ John Bogle นักลงทุนระดับตำนานอีกคน


-------------------------------------------

ขอบคุณข้อมุลจาก Business Insider และ www.berkshirehathaway.com/letters/letters.html

สรุปโดย SiTh LoRd PaCk


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง