ตั้งแต่ช่วงต้นปี 61 ตลาดหุ้นค่อนข้างร้อนแรง ขึ้นมาทดสอบ 1800 จุด  ทำให้เกิดความสนใจในการลงทุนในหุ้นเพิ่มมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนที่อยู่ในตลาดหุ้นอยู่แล้วได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น จนมีคนพูดว่าคนเล่นหุ้นรวยได้เร็ว รวยได้ง่ายๆ ทำให้นักลงทุนเกิดความประมาทในการลงทุนตามมาได้ 

 

แล้วความรวยนี้ช่วยให้เกิดความสุขในชีวิตได้จริงมั๊ย...?

ในทางพุทธศาสนาก็ไม่ได้ปฏิเสธความร่ำรวย เพียงแต่ว่าความร่ำรวยนี้ต้องไม่ไปทำให้ผู้อื่นหรือตนเองเดือนร้อน

ความร่ำรวยสามารถเป็นภัยต่อตนเองได้ด้วยหรือ ?

ในช่วงแรก ๆ บิล เกตต์ มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก บิล เกตต์มักโดนกล่าวหาฟ้องร้องจากหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากคนทั่วไปมองว่าธุรกิจของเขาผูกขาด 

จนมาวันหนึ่ง บิล เกตต์ได้เปิดอ่านจดหมายจากแม่ของเขา ได้เขียนไว้ใจความสำคัญว่า "ใครก็ตามที่ได้รับจากโลกใบนี้ไปเยอะแล้วคนทั่วไปมักจะคาดหวังให้เขาเหล่านั้น ตอบแทนมอบคืนให้กับโลกด้วยเช่นกัน" 

บิล เกตต์ เข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิของตนเองขึ้นมา จนกลายเป็นผู้บริจาคติดอันดับต้นๆ ของโลก จนในที่สุดกลายเป็นที่ยอมรับจากสาธารณชนทั่วโลก ถือได้ว่าเป็นการใช้ความร่ำรวยให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น หรือ"ถือเป็นการเปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม" ตามที่ ท่าน ว. วชิรเมธีบอกไว้

แรงจูงใจที่ทำให้อยากรวย 

1. ตัณหาหรือความโลภ คือ ต้องการที่แค่อยากมีเงินให้เพิ่มมากขึ้น กล่าวคืออยากได้เงิน เพื่อเงินเท่านั้น 

2. ความต้องการเชิงบวก คือ พอลงทุนอะไรไปแล้วได้ทรัพย์สินกลับมาแล้ว ในฐานะนักธุรกิจหรือนักลงทุนเองมีสิทธิ์จะเก็บครอบครองไว้ส่วนหนึ่ง เพราะถือว่าหามาได้ด้วยความสุจริต แต่สำหรับทรัพย์สินอีกส่วนหนึ่งก็นำไปต่อยอดต่อไป เช่น นำไปแบ่งปันไปสู่สาธารณะประโยชน์

อย่างเช่นนักลงทุนของโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือนักธุรกิจหนุ่มที่กำลังร้อนแรง อย่าง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ได้มอบเงินบริจาคเพื่อการกุศล เพื่อการศึกษาต่อยอดคืนกลับสู่สังคมด้วยเช่นกัน

นำหลักธรรมะบริหารจัดการลงทุนอย่างไร ?

ถ้าคุณเป็นนักลงทุน สิ่งแรกที่คุณควรเริ่ม คือ ลงทุนในตนเอง หรือในทางธรรมะ ให้คุณรู้จักมองตนเองให้มากขึ้น แล้วมองคนอื่นให้น้อยลง

แม้แต่ วอร์เร็น บัฟเฟตต์ กล่าวไว้ว่า กฎทองข้อแรก คือ "จงลงทุนในตนเอง" ให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น

แล้วการลงทุนในตนเองเป็นอย่างไร 

 

เมื่อคุณยังไม่มีความรู้ คุณควรไปศึกษาหาความรู้ ถือเป็นการลงทุนทางความรู้

เมื่อคุณสุขภาพยังไม่แข็งแรง คุณควรไปลงทุนในด้านสุขภาพ

หรือในทางธรรม คุณควรลงทุนสร้างเสริมสติปัญญา ลงทุนทางคุณธรรม

เมื่อคุณยังไม่มีสิ่งเหล่านี้ คุณควรพัฒนาให้มีความรู้ มีสุขภาพดี มีคุณธรรม เป็นต้น

ดังตัวอย่างนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตอย่างหนึ่ง การลงทุนไม่ได้หมายความว่า

ลงทุนทางธุรกิจเท่านั้น การลงทุนในสิ่งเหล่านี้ จะยั่งยืนกว่าการลงทุนทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว

สุดท้ายนี้ หลักธรรมะ 1 ข้อที่นำไปใช้ได้ โดยท่าน ว. วชิรเมธี ได้นำพระพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จปรินิพพาน

ไว้ว่า "จงอย่าประมาท" เนื่องจากคนที่ประมาทไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายแล้ว !

ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไร ทำธุรกิจ ลงทุนหุ้น หรือดำเนินชีวิต ถ้าหากเราไม่ประมาทก็จะไม่พบกับความล้มเหลว คราวนี้ขึ้นกับว่าเราจะดำรงชีวิตแบบไหน

แล้วนิยามการลงทุนของคุณคืออะไร?

...

----------------------------------

เรียบเรียงโดย Freedom VI

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ มือใหม่  - เทปสัมภาษณ์พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี - ของสถานีช่อง Money Channel  

หรือ ติดตามฟังคลิปได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=GLrfKU_U1Bk