#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

เจาะลึกโมเดลธุรกิจ FORTH

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
422 views

เจาะโมเดลธุรกิจ FORTH กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model เราสรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันง่ายๆเลยครับ

 

---------------------------------

เจาะลึก FORTH ต่อยอดธุรกิจรวยด้วยตู้เติมเงิน


- การวิเคราะห์ FORTH ต้องวิเคราะห์ถึง 4 ธุรกิจหลัก 


1) ธุรกิจ อีเอ็มเอส ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า Forth และตราสินค้าลูกค้า 


2) ธุรกิจโทรคมนาคม ผลิตและรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคม พร้อมให้บริการโทรคมนาคมครบวงจร 


3) ธุรกิจเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ผลิตและรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อาทิ เช่น ระบบสัญญาณไฟจราจร ป้าย LED มิเตอร์ไฟและน้ำ ระบบติดตามรถยนต์ GPS รวมถึงการให้บริการระบบ ERP เป็นต้น 


4) ธุรกิจเติมเงินมือถือและชำระเงินออนไลน์ผ่านตู้เติมเงินอัตโนมัติ

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตู้บุญเติม


ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ

- ธุรกิจตู้เติมเงิน FSMART ซึ่ง FORTH ถือหุ้นอยู่ประมาณ 45.75% 


- ธุรกิจที่ 1 และ 2 เป็นธุรกิจขายมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 33% และมี margin ประมาณ 22% 


- ธูรกิจตู้บุญเติมมีสัดส่วนถึง 50% ของยอดขายดังนั้น FSMART มีอิทธิพลกับรายได้มาก


- ธุรกิจที่ 3 มีสัดส่วน 17% 


- ธุรกิจที่ 1 และ 3 เป็นธูรกิจที่ไม่เติบโตเลยในช่วงปีที่ผ่านมา 


- บริษัทลูก FSMART มี positive Cash Flow น่าสนใจมากเงินสดเข้ามาเร็ว


- นักลงทุนให้ความสนใจกับ FSMART มากกว่าตัวแม่อย่าง FORTH และให้มูลค่ากับ  FSMART มากจนเกินไป นั้นแสดงว่านักลงทุนไม่ให้คุณค่าธุรกิจที่ 1 และ 3 เลย 


- แต่ด้วยการวิเคราะห์ที่ดี เราต้องมองถึง 4 ธุรกิจไปพร้อมๆกัน อย่าง Market Cap. ของลูกเกือบเท่าแม่แล้วซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไรนัก

 

ผลประกอบการรายได้ไม่โตเลยในช่วงที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก set.or.th ณ วันที่ 29/11/2559)


- งบ 9 เดือนที่ผ่านมา FORTH กำไรลดลง 10% แต่สิ่งที่น่าสนใจ FSMART กำไรเพิ่ม 30% นั้นแสดงว่าธูรกิจอื่นของแม่ถดถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด


- ธุรกิจของลูกเป็นเมกะเทรนคือกำไรดี แคลชโฟวดี แต่ข้อเสียคือ กำไรดีจะเป็นการชักชวนให้คู่แข่งเข้ามาในตลาดก็ต้องเกิดการแข่งขัน


- ตอนนี้บริษัทลูกกำลังไปเติบโตนอกประเทศ เอาตู้บุญเติมซึ่งเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จในไทยไปใช้ที่ต่างประเทศด้วย ประเด็นนี้นักลงทุนต้องติดตามและเป็นปัจจัยบวกต่อในอนาคต 


- ไทยเป็นศูนย์กลาง CLMV ตู้บุญเติมเลยประสบความสำเร็จ ฐานล่างของปิรามิดมีจำนวนมาก


- จำนวนตู้บุญเติมมีจำนวนมากประมาณเกือบ 8 หมื่นตู้ทั่วประเทศ นั้นเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง


- ตอนนี้ตู้หยอดเหรียญกำลังเป็นธุรกิจใหม่ เป็นปัจจัยเติบโตรอบใหม่และเป็นสิ่งที่ต่างประเทศเคยประสบความสำเร็จมาแล้ว น่าสนใจกับโมเดลธุรกิจตัวนี้

 

 

ส่วนที่ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ

-- ธุรกิจรับเหมาติดตั้งเป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยแน่นอน ซึ่งการรับเหมาเป็นธูรกิจที่ไม่ค่อยทำเงินนักอาจจะขาดทุนหรืออาจจะกำไรก็ได้ 


-- รายได้ของ FORTH ไม่น่าประทับใจเลยในช่วงที่ผ่านมา ปี 55 มีรายได้ 5.9 พันล้าน และไม่เคยแตะที่ 5.9 พันล้านได้อีกเลย รายได้ลดลงเรื่อยๆ


-- แต่เนื่องจาก FORTH ถือหุ้น FSMART อยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นธุรกิจที่เติบโต แสดงว่านักลงทุนแถบไม่ให้ค่าอะไรเลยกับธุรกิจดั้งเดิมที่ไม่ใช่ตู้เติมเงิน


-- มันเหมือนกับตัวแม่ไปถือตัวลูกที่มีมูลค่ามากกว่าอย่าง QH ไปถือหุ้น HMPRO ซึ่งธุรกิจอสังหาแทบจะได้ฟรีเลย หรือว่า CPF ไปถือหุ้น CPALL ซึ่งนักลงทุนให้มูลค่าของ CPALL มากกว่า CPF อันนี้ก็เช่นเดียวกัน คือ นักลงทุนให้ค่าของ FORTH น้อยกว่าตัวลูกอย่าง FSMART


-- ประเด็นสำคัญคือ ถ้าเราจะซื้อตัวแม่จริงๆต้องดูด้วยว่าตัวลูกเป็นอย่างไร ฐานะมั่นคงแค่ไหน หุ้นลูกแพงไปหรือไม่ ถ้าลูกแพงสุดๆ PE 30 - 40 เท่าแบบนี้ แสดงว่าเราก็หวังลูกไม่ได้เพราะถ้าลูกโดนกระทบเมื่อไร แม่จะโดนไปด้วย


-- เหมือนประเด็นเรื่อง INTUCH ตอนนี้ที่ถือหุ้น Advanc สัดส่วนค่อนข้างเยอะ หุ้น INTUCH ก็ไม่ได้แพงมาก และถือ Advanc ด้วยนั้นแสดงว่ามันมีมูลค่าที่น่าสนใจอยู่


-- แต่ถ้าตอนนั้นบริษัทลูกไม่แน่นอนเลย คนไล่ราคาหุ้นเหมือนกับการเติบโตผิดปกติแบบนี้ การที่เราจะซื้อแม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี


-- คาดการณ์ยากมากสำหรับธุรกิจของแม่ แต่ธุรกิจของลูกเหมือนเป็นธูรกิจ Retail คนจำนวนมากใช้ มันเป็นแมสมีความแน่นอน ค่อนข้างมั่นคง แต่ในรายละเอียดลึกๆอาจจะมีความเสี่ยงซึ่งนักลงทุนต้องไปค้นหา


-- เห็นว่าโมเดลธุรตัวใหม่ ตู้หยอดเหรียญซื้อของเหมือนในต่างประเทศ มันก็ดูเป็นโมเดลที่น่าสนใจ


-- เรื่องตู้กด ตู้หยอดเหรียญซื้อของมันดูน่าสนใจ แต่จะเข้ากับนิสัยคนไทยไหมต้องดูอีกเรื่องหนึ่ง ..


-- ธุรกิจตู้เติมเงินเป็นธุรกิจเทคโนโลยี มันมีความเสี่ยง คือ ถ้ามีเทคโนโลยีตัวใหม่เมื่อไร มีคู่แข่งที่ดูดีกว่า อาจจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เหมือนโทรศัพท์มือถืออะไรประมาณนั้น


-- ส่วนผมว่าเรื่องจำนวนตู้เยอะ หรือว่าเข้ามาก่อน แต่ก็ไม่ได้เปรียบอะไรมากเพราะต้นทุนใหญ่ไม่ใช่เรื่องตู้ แต่เป็นค่าสถานที่ทีไปเช่าหรือว่าไปแชร์กำไรกับคนอื่น จริงๆตู้อะไรก็ทำได้หมด คนไม่ได้สนใจหรอกว่าเป็นตู้ยี่ห้ออะไร ลูกค้าไม่ได้สนใจมากนัก การแข่งขันอนาคตสูงแน่นอนเพราะกำไรดี


-- ธุรกิจที่จะไปต่างประเทศมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ของอะไรที่มันข้ามประเทศมันมีข้อจำกัดเยอะ


-- ธุรกิจตู้เติมเงิน มันเป็นธุรกิจเทคโนโลยีอย่างที่บอกไปข้างต้นคือมันผันผวนสูง คู่แข่งเข้ามาง่าย อีกนัยหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องของโชค คือ คุณโชคดีที่บังเอิญจับเทคโนโลยีถูกตัว มันก็เลยโตเป็นบ้าเป็นหลัง แต่สักพักมันก็จะกลายเป็นตะวันตกดินเปรียบเทียบง่ายๆเหมือนเฟชบุค ที่จับถูกตัวเจ้าของรวย บริษัทโตแรงอะไรแบบนั้นแต่อนาคตเราไม่รู้อาจจะมีโซเชียวเน็ตเวิร์คอะไรใหม่ๆคนก็แห่กันเข้าไปใช้ คนเข้าไปเล่น อย่างในอดีตเมื่อก่อนคนก็เล่นไฮไฟว์ เล่นบล็อคเกอร์ เล่น MSN ตอนนี้ก็ไม่มีคนเล่นแล้ว เป็นแบบเดียวกัน

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model ช่อง Money channel 

สรุปโดย: SiTh LoRd PaCk


งานสัมมนาฟรี ประจำปีของ 2morrow group

"ใกล้รุ่ง"

18 ธ.ค. 2559

ลงทะเบียนร่วมงานได้แล้ว ที่ http://www.stock2morrow.com/course/freeseminar.php

 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง