ผ่านไปแล้วกับการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และผลก็ออกมาแล้วว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บุคคลผู้ที่รวยที่สุด 50 อันดับแรกที่จัดโดยนิตยสาร Forbes ก็ได้รับการโหวตเลือกเป็นประธานาธิบดี
สำหรับใครที่สนใจอยากจะค้นประวัติก็ลองอ่านนี้ดูครับ คลิ๊กที่นี้ --> เปิดประวัติ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา
การร่วงลงอย่างหนักของตลาดวอล์สตรีททำให้นักลงทุนเสียหาย แต่ใช่ว่านักลงทุนจะเสียหายคนเดียว โดนัลด์ ทรัมป์เองก็ถือหุ้นอยู่ไม่ใช่น้อยๆ ซึ่งมีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่ามูลค่าพอร์ตหุ้นเพียงอย่าวเดียวน่าจะอยู่ทีประมาณ 100 ล้านเหรียญ แต่จะเป็นสัดส่วนน้อยมากๆเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่ทรัมป์มีอยู่ประมาณหมื่นล้านเหรียญ
นิตยสาร Fortune เก็บข้อมูลว่า ตอนที่ตลาดหุ้นร่วงจากการคาดหวังว่านางฮิลลารีจะได้ พอร์ตหุ้นของทรัมป์ก็แทบจะไม่ค่อยลงมากนัก ค่า PE เฉลี่ยของหุ้นในพอร์ตทรัมป์อยู่ที่ประมาณ 16 เท่า ซึ่งน้อยกว่าดัชนี S&p500 ที่มี PE อยู่ประมาณ 18 เท่า การวางหุ้นที่มีค่า PE ต่ำและเป็นหุ้นที่ปันผลดี ความผันผวน(เบต้า)ก็ไม่มากนัก แสดงให้เห็นว่าการคัดเลือกหุ้นนั้นน่าจะเป็นการจ้างผู้จัดการกองทุนส่วนตัวมาบริหารเงินมากกว่าที่จะเลือกหุ้นเอง
มูลค่าสูงสุด 14 ตัวแรก ของหุ้นในพอร์ต โดนัลด์ ทรัมป์
14. Alphabet GOOGL : $100,000 to $200,000
13. Caterpillar : $100,000 to $250,000
12. Phillips 66 : $100,000 $250,000
11. Celgene : $100,000 to $250,000
10. Gilead Sciences : $100,000 to $250,000
9. Visa : $100,000 to $251,000
8. General Electric : $100,000 to $250,000
7. Johnson and Johnson : $100,000 to $250,000
6. Nike : $100,000 to $250,000
5. McKesson : $100,000 to $250,000
4. J.P. Morgan Chase : $100,000 to $251,000
3. PepsiCo $150,000 to $350,000
2. Microsoft : $300,000 to $600,000
1. Apple $600,000 to $1.251 million
ถ้าใครสนใจอยากดูแบบละเอียดก็ดาวโหลดมาดูได้ครับ คลิ๊กที่นี้ --> แจ้งสินทรัพย์ก่อนการลงเลือกตั้งประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยังมีการลงทุนในทองคำอีกด้วย แต่สัดส่วนก็ยังน้อยอยู่ประมาณ 2 แสนเหรียญสหรัฐครับ