ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ธุรกิจของ QH มีอสังหาริมทรัพย์บ้านแนวราบ คอนโด และตึกออฟฟิศให้เช่า
- จุดเด่นของ QH คือการลงทุนในบริษัทอื่นๆที่มีศักยภาพ มีเงินปันผลจากบริษัทที่ไปลงทุน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ นอกจากปันผลรับที่ได้แล้ว ยังได้รับ Capital Gain จากบริษัทเหล่านั้นอีกด้วย เช่น Hmpro LHbank ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันให้มูลค่าของ QH มีมากขึ้น
- บริษัทที่ QH ไปลงทุน มีมูลค่ามากกว่า Market Cap. ของตัวบริษัทเอง
- QH มีจุดเด่น คือ มีการ Diversify Portfolio
- QH เป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์เยอะมาก มี Backlog อยู่ประมาณ 8.5 พันล้าน จะสามารถอยู่ได้อีก 2-3 ปีข้างหน้า
- การวิเคราะห์ QH ต้องวิเคราะห์แบบ Sum of the part
- QH ต้องมีการปรับการขายใหม่โดยการเร่งขายบ้านให้ได้มาก เพื่อให้งบโต นักลงทุนก็จะกลับมาให้ความสนใจมาก ราคาหุ้นก็อาจจะถูกปลดล๊อคได้ แต่ปัจจุบันนี้ยังดูช้าเกินไป
- วงจรการขายสินค้าของ QH ถือว่านานกว่าบริษัทอื่น โดยเฉลี่ยบริษัทอื่นจะอยู่ที่ 1 ปี แต่สำหรับ QH แล้วจะอยู่ที่ 2 ปี
- Property Fund ของ QH ที่ถืออยู่ค่อนข้างโดดเด่น แต่ว่าราคาตอนนี้ยังไม่สะท้อนลงไปมากนัก
ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
-- ต้องบอกตามตรงว่า มูลค่าหุ้นของ QH กับราคาหุ้น ณ ปัจจุบันนี้ (วันที่ 21 ก.ค. 2016) เทรดกันที่ราคา Discount พอสมควร แต่ว่ามันก็ Discount มานานแล้ว ปันผลก็ดีมากๆ 4-5% ต่อปี
-- ประเด็นสำคัญ คือ QH ถูกจัดอยู่ในหมวด สร้างบ้านขาย เวลานักลงทุนเขาดู เขาก็จะไปเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น คือ ในกลุ่ม Propoty Developer ที่ไม่ได้เทรดกันที่ PE สูงหนัก และการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทอื่นๆสัดส่วน 20% ก็ไม่ได้มีค่าพิเศษอะไรมาก นักลงทุนเลยไม่ได้ให้ความสนใจ
-- ภาพลักษณ์ของบริษัทดูแก่ ไม่ได้ดูแอคทีฟ ไม่ได้ดูรุ่นใหม่เหมือนบางบริษัท นักลงทุนก็เลยไม่ได้สนใจมากนัก และยอดขายที่ผ่านๆมาก็ดูโตช้า ไม่ได้มีความหวือหวาอะไร
-- การเน้นขายบ้านเดี่ยว ก็ดูช้า เจาะตลาดเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นไม่เหมือนกับการขายคอนโดที่สามารถเข้าถึงได้คนทุกกลุ่ม ทุกวัย
-- แต่ด้วยชื่อเสียงบริษัท ก็สามารถไปได้เรื่อยๆ แม้ว่าจะเกิดวิกฤตในกลุ่มอสังหา ตัวนี้ก็จะไม่กระทบมากนัก
-- มูลค่าที่น่าสนใจ คือ การที่ QH ไปถือหุ้น Hmpro เป็นมูลค่าแฝงที่นักลงทุนควรให้ความสนใจ
-- ถ้าเราเจาะลึก QH จริงๆแล้ว QH ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Propoty Developer เหมือนกับตัวอื่นๆ แต่อยู่ในกลุ่ม Holding ที่บริษัทถือในหุ้นที่ดี
-- ถ้าสมุมติว่าสักวันหนึ่ง QH เลิกทำธุรกิจสร้างบ้านแล้ว บริษัทลูกๆก็สามารถปันผลอย่างเดียว QH ก็สามารถอยู่ได้ ผู้ถือหุ้นก็ยังได้รับปันผลโดยที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย
-- ข้อเสียของบริษัท Holding คือ รายได้ไม่หวือหวา ค่อนข้างนิ่งๆ นักลงทุนเลยไม่ให้มุลค่าเยอะมากนัก
-- QH จัดอยู่ในหุ้นกลุ่ม Defensive stock และ Divident stock คือเป็นหุ้นที่ค่อนข้างเคลื่อนไหวช้า ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจ และจัดอยู่ในกลุ่มปันผลดี ปลอดภัย
------------------------------------------
ขอบคุณแหหล่งข้อมูล : รายการ Business Model ช่อง Money channel
สรุปโดย: SiTh LoRd PaCk
** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน
ใครสนใจฟังคลิปเต็ม ดูได้จากที่นี้เลยครับ จาก youtube ของ Money Channel