#แนวคิดด้านการลงทุน

บิ๊กอสังหา "พฤกษา" มองภาษีที่ดินใหม่กดราคาลดได้ถึง 10%

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
128 views

พฤกษา : PS คาดหลังประกาศใช้พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ

แลนด์ลอร์ดแห่เทขาย-ราคาที่ดินลด 10%

พฤกษาฯ เผยหลังรับร่างรัฐธรรมนูญเชื่อภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว ต่างชาติกลับคืนตลาด รับอานิสงส์ภาษีที่ดินฯ แลนด์ลอร์ดแห่เทขายที่ดิน หาซื้อพัฒนาโครงการได้ง่าย แนวโน้มราคาลดลง 10%  เชื่อรัฐลงทุนรถไฟฟ้า 10 สาย ช่วยดันอสังหาฯ โตต่อเนื่อง 6-10 ปี ด้านธุรกิจโรงพยาบาล ยังไม่คืบหน้า อยู่ระหว่างศึกษา แย้มครึ่งปีหลังผุดเพิ่มอีก  38 โครงการ มูลค่าประมาณ  34,400 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปี 51,000 ล้านบาท รายได้รวม 53,000 ล้านบาท 

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ จะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง 2559 ดีอย่างต่อเนื่อง และทำให้ชาวต่างชาติกล้าที่จะกลับมาลงทุนมากขึ้น

 

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ นั้นผลจากการที่จะประกาศใช้พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.... ในปี 2560 จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ ได้ง่ายขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาโครงการที่สนองลูกค้าในแต่เซกเมนต์ได้ ซึ่งภาษีดังกล่าวจะบีบให้เจ้าของที่ดินที่มีมูลค่าสูงๆในทำเลกลางเมืองกว่า 50% จะไม่มีเงินจ่ายภาษี จึงต้องนำที่ดินออกมาขาย

ดังนั้นเมื่อที่ดินถูกนำออกมาขายมากๆ จะทำให้ราคาที่ดินลดลงตามกลไกตลาดประมาณ 10%  ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าของที่ดินหลายแปลงนำที่ดินเสนอขายหลายแปลงเนื่องจากไม่ต้องการจ่ายภาษี

 

โดยเป็นที่ดินที่มาจากแลนด์ลอร์ดใหญ่ไม่ถึง 10% ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเสนอขายผ่านโบรกเกอร์มากกว่า ซึ่งในปีนี้บริษัทฯเตรียมงบซื้อที่ดินไว้ทั้งสิ้น 17,000 ล้านบาท ขณะนี้ซื้อไปแล้ว 50% และที่อยู่ในระหว่างดีลอีก 80-90% โดยราคาที่ดินที่ซื้อมาราคาสูงสุดคือ 700,000 บาท/ตารางวา  ซึ่งแปลงล่าสุดที่ซื้อมาอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 61 ส่วนแผนการดำเนินงานอีก 3-4 ปีข้างหน้า ได้เตรียมงบซื้อที่ดินไว้ประมาณ 17,000-20,000 ล้านบาท

 

โดยในปีนี้ตลาดรวมอสังหาฯมีมูลค่าประมาณ 383,183 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อนที่มีมูลค่า354,799 ล้านบาท ส่วนในปีต่อๆไปคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณปีละ 5-7% โดยคาดว่าในปีนี้จำนวนประชากรที่มีความต้องการบ้านมีประมาณ 217,719 คน และจำนวนหน่วยที่คาดว่าจะขายได้ 106,204 ยูนิต

โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังสามารถเติบโต จากการลงทุนด้านคมนาคมและการขนส่งมวลชนของภาครัฐ รวมถึงการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

“หากทิศทางการขยายของรถไฟฟ้า 10 สาย ระยะทาง 466 กิโลเมตร ยังมีต่อเนื่องก็จะผลักดันให้ทิศทางของธุรกิจอสังหาฯเติบโตไปได้อีกอย่างต่อเนื่อง อีก6-10 ปี หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-7%”นายทองมา กล่าว

 

สำหรับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดและวางเพลิง ในเมืองท่องเที่ยวทางภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ เชื่อว่าส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในระยะสั้น รวมถึงทำให้นักลงทุนหรือชาวต่างชาติชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาฯในเมืองท่องเที่ยว ส่วนภาคอสังหาฯจะส่งผลทางอ้อมเท่านั้น โดยเชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้โครงการรถยนต์คันแรกจะครบ 5 ปีทำให้ภาระหนี้ของประชาชนเริ่มลดลง รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่ปรับลดลง ขณะเดียวกันสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำ 1.5% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกตลาดจะติดลบ 4% 

นอกจากนี้การโหมเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการจะช่วยกระต้นกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับธนาคารออกโปรโมชั่นการผ่อนชำระบ้านหรือคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น

 

ส่วนการนำบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จในเดือนพฤษจิกายนนี้ และพร้อมเดินหน้าเพิ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำจากธุรกิจเช่า(Recurring Income)  ทั้งจากธุรกิจบริการและให้เช่า อาทิ ธุรกิจบริหารหลังการขายเพื่อรับบริหารโครงการของพฤกษาเอง รวมถึงการลงทุนโครงการสำนักงานให้เช่า หรือโรงพยาบาล ซึ่งจะที่ใช้ดินบริเวณใกล้ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่  พื้นที่ 3.5 ไร่ จากทั้งหมด 8.5 ไร่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

ด้านผลประกอบการปี 2559 ในรอบครึ่งปีแรก บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ที่ 11.5% สามารถเติบโตและครองส่วนแบ่งตลาดทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 30.3% โดยทำรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ได้สูงถึง 23,888  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้ 21,766 ล้านบาท คิดเป็น 45.1% ของเป้ารายได้ปี 2559 ที่ 53,000 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 3,139ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3,059 ล้านบาท โดยผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการโอนคอนโดมิเนียม เช่น พลัมคอนโด พหลโยธิน 89, พลัมคอนโด พาร์ค รังสิต, ฟิวส์ จันทน์-สาธร และฟิวส์ มิติ สุทธิสาร-รัชดา  รวมถึงการโอนในกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยคอนโดมิเนียมเติบโต 39.7% และทาวน์เฮาส์เติบโต 4.4% 

 

ด้าน นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม PS   กล่าวว่า  ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มียอดขาย 21,635 ล้านบาท คิดเป็น 42.4% ของเป้ายอดขายปี 2559 ที่ 51,000 ล้านบาท โดยมีการเปิดโครงการไปแล้ว 27 โครงการ มูลค่ารวม 19,641 ล้านบาท และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก  38 โครงการมูลค่าประมาณ  34,400 ล้านบาท แบ่งเป็นไตรมาส3 เปิดตัวทาวน์เฮาส์ 13 โครงการ,บ้านเดี่ยว 9 โครงการ และคอนโดฯ 2 โครงการ ส่วนไตรมาส4 เปิดตัวทาวน์เฮาส์  9 โครงการ,บ้านเดี่ยว 3 โครงการ และคอนโดฯ 2 โครงการ


 โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านา ได้เปิดตัว “พลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น” มูลค่าโครงการประมาณ 2,400 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60%  และ “พลัมคอนโด ปิ่นเกล้า สเตชั่น” มูลค่าโครงการประมาณ  2,550 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70%  
 

นอกจากนี้ยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) เพียงสิ้นเดือน มิถุนายน 2559 อยู่ที่ 23,685 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2559 นี้ จำนวน 11,155 ล้านบาท  พร้อมทั้งมีโครงการที่อยู่ระหว่างขาย (Active Projects) ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2559 รวม 168 โครงการ มูลค่า 76,084 ล้านบาท  แบ่งเป็นแนวราบ 139 โครงการ มูลค่า 61,542 ล้านบาท(80.9) และแนวสูง 29 โครงการ มูลค่า 14,542 ล้านบาท(19.1%)


“ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง คือกิจกรรม “พฤกษา Non Stop ขยายเวลารับ เพิ่มเวลาลุ้น” ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน2559 นี้ ซึ่งโครงการนี้เป็นการขยายโอกาสให้พี่น้องประชาชนที่ต้องการมีบ้านสามารถมีบ้านได้ง่ายขึ้น และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการซื้อที่มีอย่างต่อเนื่องของพี่น้องประชาชน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นแนวทางสนับสนุนเพื่อให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ที่ 53,000 ล้านบาท และเป้ายอดขาย ที่ 51,000 ล้านบาท ตามที่ได้ตั้งไว้” นายเลอศักดิ์ กล่าว

 

นายปิยะ ประยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจแวลู PS กล่าวถึง ตลาดอสังหาฯในเขตกทม.-ปริมณฑล ว่าทั้งปีจะมีอัตราการเติบโต 8% แต่ในช่วงครึ่งปีแรกตลาดติดลบ 4.5% หรือ 171,222 ล้านบาท  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 มีมูลค่า 179,344 ล้านบาท 
 

ส่วนตลาดต่างจังหวัดใน 6 หัวเมืองใหญ่ คือ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น ระยอง และสงขลา (หาดใหญ่) คาดว่าทั้งปีจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 8.1%  คิดเป็นมูลค่า 54,033 ล้านบาท มากกว่าปี 2558 ที่มีมูลค่า 49,984 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก 2559 ตลาดรวมติดลบ 9.1%  

 

แหล่งข้อมูล : http://www.prop2morrow.com/home/news/586#sthash.PdpjV9R3.dpuf


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง