Apple ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลล่าร์ในบริษัท Didi Chuxing ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่อันดับ 1 ของจีน
บริษัท Apple Inc. ประกาศลงทุนในบริษัท Didi Chuxing เป็นเงินกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดย Didi เป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งของบริษัท Uber China ในขณะนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Apple จะเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาแพล็ตฟอร์มบริการรถแท็กซี่ของ Didi ซึ่งในปัจจุบัน Didi Chuxing ครองส่วนแบ่งอับดับหนึ่งด้วยจำนวนเที่ยวรถต่อวันกว่า 11 ล้านเที่ยวและมีผู้ใช้วันละมากกว่า 300 ล้านคน
บริษัท Didi Chuxing เกิดมาจาก 2 บริษัทแชร์รถแท็กซี่จีนอย่าง Didi และ Kuaidi ควบรวมกิจการกันเพื่อกันคู่แข่งอย่าง Uber ที่จะเข้ามาบุกตลาดจีน โดยในภายหลังบริษัทที่ควบรวมนี้มีชื่อว่า Didi Chuxing นักลงทุนที่ลงทุนในบริษัท Didi ก่อนหน้า Apple ได้แก่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนอย่าง Alibaba Group Holdings และ Tencent Holdings ซึ่งมองเห็นศักยภาพของธุรกิจ Online-to-Offline หรือ O2O ทั้งสองบริษัทมองเห็นศักยภาพและลงทุนในบริษัทเดียวกันหลังจากบริษัท Didi และ Kuaidi ควบรวมกิจการเป็น Didi Chuxing โดย Alibaba ร่วมลงทุนกับบริษัท Softbank และ Global Tiger ไปกว่า 600 ล้านดอลล่าร์ในบริษัท Didi โดยในรอบล่าสุดนี้ Didi ต้องการระดมทุนอีกกว่า 2 พันล้านดอลล่าร์ซึ่งหากปิดรอบการลงทุนได้ก็จะมีมูลค่าสูงกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลล่าร์
การแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนเป็นไปอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Travis Kalanick ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Uber Technologies เปิดเผยข้อมูลว่าบริษัททำกำไรได้ในตลาดอเมริกาแต่ต้อง "ขาดทุนกว่าปีละ 1 พันล้านดอลล่าร์ในประเทศจีน" แต่บริษัทยังกล่าวว่ากำไรต่อปีจากการดำเนินการในเมืองที่ทำรายได้สูงสุดกว่า 30 เมืองของ Uber ก็มากกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์แล้ว ทำให้ Uber China สามารถแข่งขันในจีนได้ต่อไป ปัจจุบันบริษัท Uber China เติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีส่วนแบ่งตลาดเติบโตจาก 1-2% ในเดือนมกราคมปี 2015 มาเป็น 30 % ในช่วงต้นปี 2016
บริษัท Didi Chuxing คู่แข่งของ Uber นั้นได้ร่วมมือกับพันธมิตรในระดับต่างประเทศอย่างบริษัท Lyft หนึ่งในผู้ให้บริการแชร์รถแท็กซี่ในอเมริกาผู้เป็นคู่แข่งของ Uber บริษัท Ola ในตลาดขนาดใหญ่อย่างอินเดีย รวมถึงบริษัท Grab Taxi ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
สำหรับผลประกอบการของบริษัท Apple ในปัจจุบันถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากยอดขายไอโฟนในประเทศจีนที่ลดลง รวมถึงยอดการส่งมอบชิ้นส่วนที่ผลิตจากบริษัท Foxconn ยังชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวของแนวโน้มการส่งมอบไอโฟนกับลูกค้า ทำให้ราคาหุ้นตกลงมาอยู่ในระดับต่ำถึง 90 ดอลล่าร์ต่อหุ้น โดยก่อนหน้านี้นักลงทุนชั้นนำของอเมริกาอย่าง Carl Icahn ก็ได้ถอนการลงทุนในบริษัท Apple ออกไปหมดแล้ว
ขอบคุณภาพจาก Indianexpress
บทความโดย บูม / FB: MoneyCrown
ใครมีคำถามคาใจ อยากลงทุนหุ้นต่างประเทศ
พบกับคุณบูม เจ้าของเพจ MoneyCrown ที่เจาะลึกการลงทุนเมืองจีน
เข้าใจยักษ์ใหญ่ หาจุดยุทธศาสตร์ทองของ "จีน"
ที่งาน Money Expo 15 พ.ค. นี้
จองที่นั้งฟรี (จำนวนจำกัด) คลิกที่รูป