#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เมื่อเด็กไทยสับสน ไม่รู้จะเรียนคณะอะไรดี

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
706 views

ด้วยความที่ประเทศไทยเรา วางระบบการศึกษาแบบ “เน้นท่องจำ ทำข้อสอบ” เด็กไทยจำนวนมากจึงยังไม่รู้ตัวเอง ว่าชอบอะไร ถนัดอะไร อยากเป็นอะไร ใครถามก็ได้แต่ยิ้ม แหะๆ เหอะๆ แล้วตอบว่า “หนูไม่รู้” ผู้ใหญ่ก็จะบอกว่า “อ่าวเฮ้ย ไม่รู้ได้ไง โตแล้วนะ จะเข้ามหาลัยแล้วนะ คิดได้แล้วนะ คณะนั้นสิ เรียนนี่สิดีนะ จบออกมา..บลาๆๆๆๆๆๆ” เรียกว่าเป็น หนึ่งในปัญหาโลกแตกของเด็กม.ปลาย และหนักใจปวดตับของพ่อแม่ชาวไทย 

ก็ขอบอกว่า ... ผมเองก็เป็นหนึ่งในผลผลิตของการศึกษาไทย ระบบท่องจำ..ทำข้อสอบ มาก่อน และก็ขอบอกว่า การเลือกคณะเข้ามหาลัยนี่สำคัญมากนะครับ เพราะมันคือการเลือกอาชีพ มันคือชีวิตของท่าน วิธีการเลือกที่ถูกต้อง แน่นอน คือ เลือกอาชีพตาม "ความชอบ ความถนัด และแรงบันดาลใจ" ของตัวเอง เช่น พ่อเป็นหมอ ลูกก็อยากเป็นหมอ ...พ่อเป็นทนาย ลูกก็อยากเป็นนักกฏหมาย...พ่อเป็นทหาร ลูกก็อยากเป็นทหาร ฯลฯ

ใครค้นพบตัวเองได้ มีพ่อแม่เป็นแรงบันดาลใจ มุ่งสอบเข้าคณะที่ชอบที่ชอบได้ นี่คืออนุโมทนา สาธุ โชคดีมาก 

คำถามคือ แล้วเด็กที่มันค้นหาตัวเองไม่เจอจริงๆ ไม่รู้ว่าตัวเองโตขึ้นอยากเป็นอะไร จะให้เลือกคณะอะไร??? ซึ่งขอฟันธงว่า นี่คือประชากรกลุ่มใหญ่ของเด็กไทย !!!

สมัย 20-30 ปีก่อน ท่ามาตรฐานสูตรโบราณของเด็กไทย เขาเลือกตามวิชาที่ชอบที่ชอบ เช่น

-> ชอบคำนวณ คณิต ฟิสิกส์ .... ให้เลือก วิศวกรรมศาสตร์
-> ชอบและเก่งหลายวิชา โดยเฉพาะ ชีวะ ...ให้เลือก แพทยศาสตร์
-> ชอบภาษา ...ให้เลือก อักษรศาสตร์ Art Eng. 
ใครชอบสูตรโบราณ ผมคิดว่าก็ยังพอใช้ได้อยู่ ... แต่วันนี้ ผมมีข้อเสนอใหม่  ลองดูจาก “ตลาด” ว่าเขาต้องการอะไร 
ในยุค 20 ปีก่อน เป็นยุคทองของวิศวะ เรียนเอาโลจิก มีเหตุมีผล คิดอะไรเป็น process ดู result นับถือความ efficient และ productivity ทำงานในองค์กรใหญ่ พลังงาน ไฟฟ้า สื่อสาร ปิโตรเคมี หรือแม้แต่ธนาคาร มายุคนี้ ผมคิดว่า มันมีคณะที่น่าสนใจมาก อีกคณะหนึ่ง                   นั่นคือ “สถาปัตย์ “ ด้วยเหตุผลสำคัญ 5 ประการ

1. สถาปัตย์ เป็นที่ขัดเกลาความคิด ให้ Differentiate(แตกต่าง) จากชาวบ้าน อย่างมี Advantage(ข้อดี ข้อได้เปรียบ) ไม่ใช่แตกต่างบ้าบอไร้เหตุผลรองรับ 
2. สถาปัตย์เป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมสามประสาน เหตุผลหลักวิชาของเด็กวิศวะ + ความงดงามของเด็กศิลป์ + ความคิดสร้างสรรค์แบบ “ขายได้”ของเด็กนิเทศน์การตลาด
3. สถาปัตย์มีความอึด ถึก อดทน จากการทำงานหามรุ่งหามค่ำ และต้องเรียนนาน 5 ปี 
4. สถาปัตย์ถูกฝึกมาว่า “เก่งไม่กลัว กลัวส่งงานช้า” นี่เป็น DNA จำเป็นของฟรีแลนซ์ และความเป็นมืออาชีพ 
5. สถาปัตย์ ต้องเก่งนำเสนอ ต้องขายผลงาน ต้องเล่าเรื่อง และต้อง Pitch ลูกค้า นักลงทุน... ทุกอย่างต้องออกมาดูดี

ทักษะเหล่านี้ ไม่ว่าจะไปทำธุรกิจส่วนตัว เป็นลูกจ้างมืออาชีพ เป็น Startup หรือ เป็นอะไรก็ได้ เพราะทักษะเรื่อง ตรรกะ เหตุผล ความงดงาม ประโยชน์ใช้สอย อึด อดทน ตรงต่อเวลา และ Pitch งานเป็น ... ทักษะเหล่านี้สอนในคณะนี้ เป็นเวลา 5 ปี เรียนนานกว่าคณะอื่นอีกต่างหาก ใครหาตัวเองยังไม่เจอ ลองพิจารณาข้อเสนอนี้ดูครับ

-------------------------

สนใจคอร์ส ติวหุ้นรวยด้วย VI ของนิ้วโป้ง คลิก


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง