ปัญหาหนี้สินเศรษฐกิจจีนในมุมมองของ วอเรน บัฟเฟต ยังมั่นใจมีมุมมองเชิงบวก
แต่ จอร์จ โซรอส เห็นว่าอาจจะเข้าภาวะวิกฤตทางการเงินได้
- บัฟเฟตต์ มั่นใจและเชื่อว่าการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จีนกำลังปฏิรูประบบเศรษฐกิจในเชิงลึกยิ่งขึ้น และในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงก็อาจจะเผชิญกับแรงกดดันที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลง
- ตรงกันข้าม จอร์จ โซรอส ฉายา พ่อมดทางการเงิน ผู้ก่อตั้งบริษัท โซรอส ฟันด์ แมนเนจเมนท์ฯ ระบุว่า ปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้นของจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐนั้น จะทำให้จีนตกอยู่ในช่วงภาวะวิกฤติทางการเงิน ที่คล้ายกับช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐฯในปี 2550-2551
ทางด้านธนาคารแห่งชาติจีน (People's Bank of China : PBOC) เพิ่งประกาศแผนงานที่ให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ ในปีนี้ โดยเน้นการใช้นโยบายทางการเงิน เพื่อจัดการปัญหากำลังการผลิตล้นอุตสาหกรรมของภายในประเทศ การแก้ปัญหาสินค้าล้นสต๊อก การลดต้นทุนดำเนินธุรกิจ และการแก้ไขจุดอ่อนของธุรกิจ ซึ่งในระยะช่วงแรกนี้จะเน้นที่การแก้ปัญหาอุตสาหกรรมถ่านหินและเหล็กกล้าก่อน
นอกจากนั้น PBOC ยังให้มีนโยบายต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ การใช้นโยบายเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย การใช้นโยบายให้ธนาคารปล่อยกู้เพื่อการเกษตร เพื่อเร่งพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ในทางด้านตลาดการเงิน PBOC เร่งพัฒนาตลาดพันธบัตรจีน เดินหน้าโครงการนำร่องในการแปลงสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มาเป็นทุน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา PBOC ได้เสริมสภาพคล่องทางการเงิน โดยการอัดฉีดเม็ดเงิน 8.7 แสนล้านหยวน หรือกว่ 1.33 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจีน
เมื่อ 2 กูรูผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเห็นไม่ตรงกัน ใครจะถูก? ไม่นานเราจะได้รู้กันครับ
แต่งานนี้ลึกๆหวังว่าปู่บัฟเฟตจะเป็นฝ่ายถูก เพราะถ้าจีนพังล่ะก็ ... หุ้นแถบโซนนี้รวมถึงหุ้นไทยมีล้มยกแผง!
แหล่งข่าว: ฐานเศรษฐกิจ
ใครมีคำถามคาใจ อยากลงทุนหุ้นต่างประเทศ
พบกับคุณบูม เจ้าของเพจ MoneyCrown
ที่งาน Money Expo 15 พ.ค. นี้
จองที่นั้งฟรี (จำนวนจำกัด) คลิกที่รูป