ช่วงประมาณปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ผมเดินสายสัมมนาให้ธนาคารกรุงเทพ และ หลักทรัพย์บัวหลวงทั่วประเทศ ...สารภาพตรงๆ ว่ายิ่งสัมผัสกับนักลงทุนทั่วประเทศ ยิ่งเข้าใจภาพมากขึ้นว่า อนาคตของการลงทุนจะเป็นอย่างไร
ปัญหาหลักของโลกปัจจุบัน คือ "โลกแห่งเงินเฟ้อ" เราอยู่ในยุคที่เงินมันเป็นกระดาษที่พิมพ์จากลม (เดี๋ยวนี้ไม่ต้องใช้ทองคำค้ำประกัน ..อเมริกาพิมพ์เงินเท่าไหร่ก็ได้) ดังนั้น ถ้าให้คุณหลับตาแล้วคิดแบบ Make Sense จะเห็นภาพเลยว่า ยิ่งเวลาผ่านไป มูลค่าของเงินก็จะยิ่งลดลง
...ถึงแม้จะยกเลิก QE แปลว่า หยุดพิมพ์เงินชั่วคราว แต่คิดดีๆนะ ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจกลับมา เดี๋ยว QE การพิมพ์เงินจากลมก็กลับมาอีก (เดี๋ยวนี้แก้ปัญหาง่าย อเมริกาพอเศรษฐกิจติดขัด เงินฟืด ก็แค่พิมพ์เงิน ..แก้ปัญหาห่วยๆ แบบนี้ ฟันธงว่าโลกเรากำลังจะเข้าสู่เงินเฟ้อสุดโต่ง คือ นับวันเงินจะลดมูลค่า แล้วก็มูลค่าลดลงแบบอัตราเร่ง ..ถามหน่อยเถอะ ไอ้เงินเก็บของเรา สมมุติว่า มี หนึ่งล้านบาท ฝากไว้ในธนาคาร ..อีก 10 ปี มันจะเหลือมูลค่าจริงๆ เท่าไหร่ ซื้ออะไรได้บ้าง?)
แต่ในอีกมุม คือ Asset ทุกอย่างที่ตรงข้ามเงิน อย่างเช่น ที่ดิน , หุ้น (หุ้นดีนะ ไม่ใช่หุ้นร้อนๆ ที่รายย่อยซื้อ.. หุ้นดีปันผลต่อเนื่อง เยอะแยะ) ของแบบนี้ในระยะยาวราคามีแต่เพิ่ม
เช่น..SCC วาง 30 ปี ขึ้น 400 เท่า (วางเงิน 1 ล้านเป็น 400 ล้าน) ..หุ้น Central 14 ปีขึ้น 140 เท่า ..หุ้น ปตท. สุดเซ็ง ถ้าวาง 10 ปีที่ผ่านมา คุณรวย 10 เท่า ปันผลเพิ่มขึ้น 10 เท่า ..หุ้น รพ.กรุงเทพ ใครซื้อปี 2000 แล้วทนถือ ขึ้น 110 เด้ง!! ..หุ้น BH บำรุงราษฎร์ ทนถือ 14 ปี วันนี้รวยขึ้น 110 เท่าเช่นกัน หรือ อย่าง BLA กรุงเทพประกันชีวิต ใครถือมา 5 ปี รวย 5 เท่า -- หุ้นที่กล่าวมา สถิติคนที่พยายามซื้อๆขายๆ ส่วนใหญ่เจ๊ง ขาดทุน ...แต่คน "ถือเฉยๆ -- ออมในหุ้น แล้วรวย!!!" (แปลกไหม)
..แต่เชื่อไหมว่า คนส่วนใหญ่ทนรวยไม่ได้ รีบขายก่อนรวย (เจ็บโคตร ..หลายคนบอกไม่มีดวง ..เฮ้ยไม่ใช่ !! สิ่งที่ยากสุดในการลงทุน คือ เห็นความรวยตัวเองโตเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ..มันทนไม่ได้ ต้องรีบขาย เพื่อจับเงินสด ...Mindset มันไม่รวยไง ...เงินสด.. 555 ...คนออมในเงินสด ไปดูเลยว่าไม่มีเศรษฐีคนไหนทำ)
ใช่!! ถ้าใครออมในหุ้น หรือ ออมใน Asset เป็น ..ในยุคเงินเฟ้อสุดโต่ง ..อีก 10 ปี เจอกัน ...รวยจนเซ็ง !! ...แต่ประเด็นคือ
หนึ่ง เลือกหุ้นออม ต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีปันผล (ซึ่งรายย่อย ซื้อแต่หุ้นปั่น เพราะ มองว่าหุ้นแบบที่ผมพูด มันรวยช้าไป ..นั่นไง !!)
สอง ทนถือได้เปล่า (คนส่วนใหญ่มองว่า หุ้นปั่นขึ้นเร็วกว่า แต่มันไม่ขึ้นจริง แล้วพอซื้อก็ซื้อกันตรงดอย ..โคตรบ้า ...สาเหตุเพราะโลภไง เลยซวย)
สาม อ่านหนังสือ ออมในหุ้นหรือยัง ? ...ไม่ใช่แค่อ่านผ่านนะครับ อ่านตั้งแต่คำนำ (อ่านไปหลายๆ รอบ)..ผมชี้ให้เห็นเลยว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ซื้อหุ้นผิดตลอด ...ถึงซื้อถูกก็ดันทนรวยไม่ได้ ..ทำไม ?
อ่านดู !! -- มีปัญญา ไม่โลภ และ มาช่วยกันรวย ...จัดไป !!