ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาวันนี้ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มเข้าใกล้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้สื่อตะวันตกบางแห่งเริ่มปล่อยบทความที่มีมุมมองเชิงบวกกับจีนออกมาหลังจากได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจชุดล่าสุด ซึ่งสื่อเหล่านี้ได้มองและฉายภาพลบกับเศรษฐกิจจีนมาหลายเดือนต่อเนื่องกัน

หน่วยงานบริหารงานทั่วไปด้านศุลกากรของจีนเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 13 เมษายนว่า การส่งออกวัดมูลค่าเป็นเงินหยวนของจีนพุ่งขึ้น 18.7% ปีต่อปีในเดือนมีนาคม นับเป็นการเพิ่มครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาหลังร่วงลงไปถึง 20.6% ในเดือนกุมภาพันธ์และ 6.6% ในเดือนมกราคม มูลค่านำเข้าลดลง 1.7% เป็นตัวเลขที่ปรับตัวดีขึ้นจากการลดลงถึง 8% ในเดือนกุมภาพันธ์ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่าจีนอาจสามารถหลีกเลี่ยงกรณีที่เลวร้ายที่สุดเรื่อง "Hard-Landing" ที่นักลงทุนกลัวกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

CNBC สื่อชั้นนำของสหรัฐกล่าวถึงคำพูดของ Helen Qiao หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ดูส่วนประเทศจีนจาก Bank of America Merill Lynch ว่า “นักลงทุนในเวลานั้นกังวลมากเงินไปเรื่องประเทศจีนจะดำเนินการลดหนี้สินและการกู้เร็วเกินไป ทำให้มีโอกาสเศรษฐกิจร่วงลงและกระแทกอย่างรุนแรง” และเมื่อมองไปยังบรรยากาศในเดือนมีนาคมและเมษายน “เรามองเห็นการลงทุนที่เพิ่มเข้าไปมากขึ้นเรื่อยๆ”

ในขณะที่สำนักข่าว Reuters ได้ปล่อยบทความหนึ่งโดยมีหัวข้อเรื่อง “การส่งออกที่พุ่งขึ้นของจีนคลายความกลัวเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจลงและทำให้ตลาดปรับตัวขึ้น” โดยในบทความนี้นาย Tony Nash ผู้จัดการหุ้นส่วนจากบริษัทให้คำปรึกษาเรื่องการซื้อขายในระดับโลกชื่อ Complete Intelligence กล่าวว่า เขามองว่าการส่งออกและนำเข้าของจีนจะสามารถปรับตัวเข้าสู่เสถียรภาพได้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ​บทความของ Reuters ฉบับนี้ยังได้กล่าวถึงบทวิจัยหนึ่งของธนาคาร HSBC ที่กล่าวว่ายอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นของจีนบางส่วนมาจาก “การปรับตัวของผู้ผลิตในระดับกลางขึ้นไปบนห่วงโซ่คุณค่าได้อย่างประสบความสำเร็จ”

สำหรับสำนักข่าว Financial Times ได้ปล่อยรายงานคล้ายคลึงกันเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจของจีน โดยสรุปว่ายอดส่งออกของจีนที่พุ่งขึ้นชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีชึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนมีนาคมบ่งบอกถึงการเติบโตของปริมาณการนำเข้าที่ดีและเป็นหลักฐานที่บอกได้ว่ารายงานที่มองค่อนข้างลบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนนั้น"ค่อนข้างจะเร็วไปที่จะสรุปได้แบบนั้น" โดย Financial Times อ้างถึงคำกล่าวโดยนาย Marcel Thieliant และ Mark Williams จากบริษัท Capital Economics

ขอบคุณข้อมูลจาก China Xinhua News

ขอบคุณภาพจาก webonchina.com

บทความโดย บูม / FB: MoneyCrown