#แนวคิดด้านการลงทุน

ปั้น StartUp ต่างจาก SME อย่างไร

โดย ภาววิทย์  กลิ่นประทุม
เผยแพร่:
198 views

'ปั้น Start-Up ต่างจาก SME อย่างไร ?' ต่างกัน 2 จุด หนึ่ง คือ 'ต้นทุน' สอง คือ 'โอกาสโต'

การทำ SME มักเริ่มจากการทำธุรกิจต่อจากครอบครัว ..ประมาณว่ามีองค์ความรู้อยู่แล้ว เช่น มีสูตรทำขนมครกขั้นเทพที่สืบต่อจากคุณปู่ , มีสูตรทำยาที่คุณตาทิ้งไว้ให้ แต่การทำธุรกิจ Start-Up คือ 'คุณไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัวคุณกับเป้าหมายที่ตั้งไว้'

ฟังดูเหมือน SME จะได้เปรียบนะ เพราะมีองค์ความรู้ มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ..เพราะยุคนี้ องค์ความรู้หาง่ายมาก คุณเข้า Internet หาข้อมูลก็ได้ละ หรือ คุณเข้าสัมมนาทำกาแฟคุณก็ได้แล้วสูตรกาแฟ ดังนั้น การไม่มีอะไรเลยของ Start-Up มันเลยกลายเป็นจุดแข็ง เพราะ 'ไม่มีกรอบ พอไม่มีกรอบมันเลยไปนอกกรอบได้ และ การนอกกรอบนี่เองที่เป็นจุดแข็งของ Start-Up'

มีน้องบางคนมาถามผมว่า 'ถ้าไม่มีเงินทุนจะเริ่มอย่างไร' ..ผมก็บอกไปว่า ที่พูดว่าไม่มีเงินทุนหมายความว่าอะไร ? รอบตัวเรามีแต่เงิน มีนักลงทุนเดินชนกันไปมาตามถนน ..มีคนมีเงินมากมายที่มองหาธุรกิจที่จะเอาเงินไปลงทุน 'คนที่บอกว่า ไม่มีเงินทุน ไม่ได้แปลว่าเขาขาดเงิน แต่มันแปลว่า เขายังไม่พร้อม ความรู้ไม่พร้อม ความสามารถไม่พร้อม ...ก็เลยไม่มีใครให้ทุนไง !!' คุณจะมานั่งโลกสวย แล้วรอว่า เดี๋ยวจะมีเศรษฐีใจบุญ เอาเงินมาให้คุณ มันไม่มีหรอก 

ขั้นแรก เราต้องทำตัวให้ 'รู้พร้อม และความสามารถพร้อม' ทำไงล่ะ ? -- ก็ลงมือทำซิ เริ่มจากเข้า Internet หาข้อมูล ถามคน ค้นคว้าในเรื่องที่เราจะทำ ..จากนั้นก็ทดลองทำสินค้าออกมา ลองไปให้คนอื่นทดลองซิว่า คนคิดอย่างไรกับสิ่งที่เราทำ (ขั้นนี้ มันทำแล้วไม่ได้เงิน แต่มันได้องค์ความรู้ เป็นความรู้ที่เราค่อยๆสร้างขึ้นมาเองจากการค้นคว้าและปฏิบัติ ...ขั้นนี้แหละที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยทำ)

ขั้นที่สอง 'ขายจริง' ...ขายที่ไหนล่ะ ? ...ตลาดไง เปิดท้ายขายของไง ..ขายที่ไหนก็ได้ ที่ลองขายอย่าลงทุนเยอะ เพราะเราแค่อยากรู้ว่า สินค้าที่เราทำขึ้นมาคนยอมจ่ายหรือเปล่า ...ยุคนี้ยิ่งง่าย เปิด Facebook , Instagram หรือ Line ก็ลองขายได้แล้ว -- ถ้าขายไม่ได้ ต้องกลับไปปรับสินค้า หรือ ปรับวิธีการขาย (ขั้นนี้ที่หลายคนตกม้าตาย เพราะดันไปเช่าร้าน ลงทุนร้าน พอเปิดปั๊บ ขายไม่ได้ ..อันนี้แหละซวยจริง เพราะดันลงทุนหนัก ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าจะขายได้หรือเปล่า)
ที่เล่ามาคือ 'ต้นทุน' จะเห็นว่า ทั้งการเริ่มหาความรู้ พัฒนาสินค้า และการลองขาย ยุคนี้ใช้เงินน้อยกว่าสมัยก่อนมาก ทำให้ Start-Up ได้เปรียบ SME ค่อนข้างมาก

สอง 'เรื่องของโอกาส' Start-Up เลือกได้ว่าอะไรมีโอกาสโตได้ เพราะไม่มีกรอบ คือไม่ต้องสนใจว่า องค์ความรู้เดิมคืออะไร เพราะเราพัฒนาสูตรเอง ทำสินค้าเอง หาตลาดเอง 
ก็ 2 ข้อ คร่าวๆ 'ต้นทุน' และ 'โอกาส' ...ลองไปปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจ Start-Up คุณดู ...ถ้าเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ลอง

เอามาเล่าให้ผมฟังกันบ้างนะ เอาใจช่วย !!! ...ยุคนี้อยากทำ Start-Up 'ไปเริ่มเลยครับ'

------------------------------

สนใจคอร์ส มือใหม่เข้าใจหุ้น By ภาววิทย์ คลิก


 


เจ้าของหนังสือ Best Seller ซีรี่ย์ “แกะรอยหยักสมอง 1-3”  , “ฟรีดอมเทรดเดอร์” และ “คลีนิคหุ้นมือใหม่” พร้อมเป็นไอดอลผู้จุดประกายเรื่อง "หุ้น" ให้แก่นักลงทุนรุ่นใหม่ และเป็นวิทยากรคอร์ส “ปูพื้นฐานสู่การลงทุนเบื้องต้น” โดยมีผู้ติดตามจำนวนมาก  และได้รับเชิญไปบรรยายในหน่วยงานต่างๆ มากมายทั้งภาครัฐและเอกชน  รวมทั้งได้รับเชิญสัมภาษณ์ออกสื่อต่างๆมากมาย ทั้งโทรทัศน์  วิทยุ และสิ่งพิมพ์

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง