SISB: ธุรกิจโรงเรียนที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทาย
เชื่อว่านักลงทุนจำนวนมากเข้าใจดีว่าแนวโน้มประชากรของไทยกำลังลดลง
โดยมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น ในขณะที่เด็กเกิดใหม่มีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ คำถามคือ ธุรกิจใดจะได้รับผลกระทบมากที่สุดหากจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลง? คำตอบคือ ธุรกิจโรงเรียน และธุรกิจโรงเรียนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทยคือ SISB
.หากเราดูราคาหุ้นจะพบว่าราคาปรับตัวลดลงกว่า -58% ภายใน 12 เดือน สาเหตุหลักเป็นเพราะธุรกิจโรงเรียนกำลังเผชิญกับความท้าทายจากจำนวนนักเรียนใหม่ที่ลดลง ซึ่ง SISB ก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน
.

ผลประกอบการที่ผ่านมา
SISB มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 224 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากค่าธรรมเนียมการศึกษาและจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสแล้วพบว่ากำไรลดลง -6% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่เพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ที่ได้รับจากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น
.
ความท้าทายที่ SISB กำลังเผชิญ
ในการประชุมนักวิเคราะห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารได้ชี้แจงว่า SISB อาจต้อง ปรับลดเป้าจำนวนนักเรียนลง โดยมีสาเหตุหลักมาจาก:
1. จำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลง ทำให้จำนวนนักเรียนเข้าใหม่ลดลงตามไปด้วย
2. นักเรียนชาวจีนเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ผันผวน ส่งผลให้ผู้ปกครองลดค่าใช้จ่าย
3. การแข่งขันที่รุนแรง โดยในประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติประมาณ 250 แห่ง
.
SISB จะแก้ปัญหานี้อย่างไร?
ท่ามกลางปัญหาที่ท้าทายนี้ SISB มีแนวทางการแก้ปัญหาหลักๆ 2 ประเด็นด้วยกัน คือ:
1. การบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น: ผู้บริหารมีแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
2. การเปิดโรงเรียนใหม่แห่งที่ 7 ในปี 2570: SISB มีแผนจะเปิดโรงเรียนแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์ใหม่ที่เน้นเจาะกลุ่มนักเรียนไทยมากขึ้น ในราคาที่เหมาะสม และเน้นพื้นที่ย่านปทุมธานี
.
ด้วยความท้าทายที่ SISB กำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนนักเรียนเข้าใหม่ที่ลดลง การแข่งขันที่รุนแรง และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้เราน่าจะเห็นบทวิเคราะห์หลายแห่งมีมุมมองเชิงลบและปรับลดราคาเป้าหมายลง จนกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตที่ชัดเจนอีกครั้ง
สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างคือ หากจำนวนนักเรียนที่จบการศึกษามีมากกว่านักเรียนที่เข้าใหม่ อาจทำให้ SISB เผชิญกับปัญหาต้นทุนไม่คุ้มค่า เพราะไม่ได้มี Economy of Scale เหมือนเมื่อก่อน อย่างไรก็ตาม การเปิดโรงเรียนแบรนด์ใหม่ที่เน้นเจาะกลุ่มนักเรียนไทยในราคาที่เข้าถึงง่ายก็อาจเป็นทางออกสำหรับปัญหานี้ได้
.
ปัจจุบัน หุ้น SISB มีการซื้อขายกันที่ค่า P/E Ratio ราวๆ 14 เท่า และมีอัตราเงินปันผลที่ 3%
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่มีเจตนาเชียร์ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน
#SISB #หุ้นไทย #การลงทุน #Stock2morrow #ธุรกิจโรงเรียน #โรงเรียนนานาชาติ