Intel กับวิกฤตศรัทธา : ทำไมราคาหุ้นร่วงหนัก 33% ใน 12 เดือน
ในขณะที่หุ้นกลุ่มชิปทั่วโลกกำลังเป็นที่จับตาและได้รับความสนใจอย่างมาก แต่กลับไม่ใช่สำหรับหุ้นของ Intel ผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ ที่ราคาปรับตัวลดลงกว่า 33% ภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนไม่น้อย อะไรคือสาเหตุสำคัญที่ฉุดรั้งหุ้น Intel ให้ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนกำลังมองหุ้น Intel อย่างไร
วันนี้ Stock2morrow จะเล่าให้ฟัง
.

1. ผลประกอบการที่น่าผิดหวังและภาวะขาดทุนต่อเนื่อง
Intel เผชิญกับความท้าทายด้านผลประกอบการอย่างหนัก โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ปี 2025 ที่ผ่านมา Intel รายงานรายได้รวมที่ $12.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือ บริษัทขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น $3.024 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น EPS อยู่ที่ -0.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์อย่างมาก
นอกจากนี้ แม้รายได้รวมจะทรงตัว แต่หากเจาะลึกในแต่ละกลุ่มธุรกิจ จะพบว่า
- รายได้จากกลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Client Computing Group) ลดลง 3%
- กลุ่ม Data Center and AI (DCAI) เติบโตขึ้น 4%
- ธุรกิจ Intel Foundry Services (IFS) ซึ่งเป็นธุรกิจรับจ้างผลิตชิปใหม่ของบริษัท มีรายได้เพิ่มขึ้น 3%
ทั้งนี้ ตลาดคาดว่า Intel น่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 จะมี EPS -0.24 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือพูดง่ายๆ คือ ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านการทำกำไรและเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาหุ้นอย่างรุนแรง
.
2. การลดต้นทุนขนาดใหญ่และการปรับโครงสร้างองค์กร
เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุน Intel ได้ประกาศแผนลดจำนวนพนักงานลงเหลือ 75,000 คนภายในสิ้นปี ซึ่งจะดำเนินการผ่านการลาออกและวิธีอื่นๆ รวมถึงได้บันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปลดพนักงานไปกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ยกเลิกแผนการสร้างโครงการในเยอรมนีและโปแลนด์ รวมถึงชะลอการก่อสร้างโรงงานผลิตชิปในโอไฮโอ เพื่อให้การใช้จ่ายสอดคล้องกับความต้องการของตลาด แม้ว่าจะเป็นการลดต้นทุน แต่การชะลอและยกเลิกโครงการเหล่านี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่าบริษัทจะเน้นการลดต้นทุนมากเกินไปจนละเลยการฟื้นฟูความได้เปรียบทางเทคโนโลยี
.
3. การมุ่งเน้นลดต้นทุนมากกว่านวัตกรรม
นักลงทุนมองว่าการที่ Intel มุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนและปรับโครงสร้างองค์กร อาจทำให้บริษัทละเลยการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่มีการแข่งขันสูง แม้ซีอีโอของ Intel จะกล่าวว่าบริษัทจะเน้นรักษาความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์และมีแผนรองรับความต้องการชิป AI แต่การที่บริษัทเปิดเผยว่าอาจจะหยุดหรือเลิกการพัฒนาเทคโนโลยี 14A และเทคโนโลยีที่ต่อเนื่องหากไม่สามารถหาลูกค้าได้ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในทิศทางระยะยาวของบริษัท
.
4. การพิจารณาขายธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลัก
Intel กำลังพิจารณาขายหุ้นในส่วนธุรกิจ Network and Edge ให้กับนักลงทุนภายนอก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างเพื่อมุ่งเน้นธุรกิจหลักด้านการผลิตชิปและ AI แม้ว่าการปรับเปลี่ยนนี้จะช่วยให้บริษัทมีความคล่องตัวและโฟกัสมากขึ้น แต่นักลงทุนบางส่วนอาจมองว่าการขายธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลักอาจส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาวและลดความหลากหลายของรายได้
.
โดยสรุปแล้ว ราคาหุ้น Intel ที่ร่วงลงอย่างหนักมาจากความกังวลของนักลงทุนต่อผลประกอบการที่ยังไม่ฟื้นตัว การปรับโครงสร้างองค์กรที่เน้นการลดต้นทุนมากกว่าการลงทุนในนวัตกรรม และความไม่แน่นอนในทิศทางธุรกิจในอนาคต ทำให้ต้องจับตาดูต่อไปว่า Intel จะสามารถกอบกู้สถานการณ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อีกครั้งหรือไม่
#Stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #intel #หุ้นนอก