#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน
#แนวคิดด้านการลงทุน
#วางแผนการเงิน

SPA : หุ้นที่ยังต้องพึ่งการท่องเที่ยวจากจุดแข็งกลายเป็นจุดเสี่ยง ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
25 views

SPA : หุ้นที่ยังต้องพึ่งการท่องเที่ยวจากจุดแข็งกลายเป็นจุดเสี่ยง ?

.

บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA คือหนึ่งในผู้นำธุรกิจสปาและนวดเพื่อสุขภาพที่นักลงทุนรู้จักกันดี ทว่าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ

คำถามสำคัญคือ SPA ยังคงพึ่งพิงการท่องเที่ยวเป็นหลักในการเติบโตหรือไม่ ?

และปัจจัยที่เคยเป็น "จุดแข็ง" อย่างการพึ่งพิงนักท่องเที่ยว กำลังกลายเป็น "จุดเสี่ยง" สำคัญของบริษัทได้อย่างไร?

วันนี้ Stock2morrow จะเล่าให้ฟัง

.

 

ผลประกอบการ 1Q68 : กำไรทรุด ต้นทุนพุ่ง ยังพึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติหนัก

ผลประกอบการ 1Q68 ของ SPA แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่ยังคงอยู่ กำไรปกติทำได้เพียง 51 ล้านบาท ลดลงถึง 44% QoQ และ 31% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดถึง 26-29% สาเหตุหลักมาจาก

1. รายได้ถูกกดดันหนัก: แม้เปิดสาขาเพิ่ม แต่ยอดขายจากบริการสปาอยู่ที่ 356 ล้านบาท ไม่เติบโต YoY และ SSSG (Same-Store Sales Growth) เฉลี่ยลดลงถึง 13% YoY ซึ่งแย่กว่าคาดมาก

2. นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว: กลุ่มลูกค้าหลัก โดยเฉพาะชาวจีน (45% ของรายได้) ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คือปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งรายได้

3. ต้นทุนและค่าใช้จ่ายพุ่ง: อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงเหลือ 28.9% จากการเพิ่มสาขาใหม่และต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ก็เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้ ทำให้สัดส่วน SG&A/Sales พุ่งจาก 9.2% เป็น 12.4%

ผลลัพธ์คือ กำไรถูกกดดันอย่างหนัก สะท้อนให้เห็นว่าการพึ่งพิงนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการขยายสาขาที่มาพร้อมต้นทุนที่สูงขึ้น ยังคงเป็นภาระสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของ SPA

.

มองการท่องเที่ยวไทย จากจุดแข็งกลายเป็นจุดเสี่ยงของบริษัท

โครงสร้างรายได้ของ SPA ชี้ชัดว่า 70-75% มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีชาวจีนเป็นกลุ่มใหญ่สุด (40% ของลูกค้าทั้งหมด) นี่คือปัจจัยที่เคยส่งให้ SPA เติบโตอย่างรวดเร็วในอดีต แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นความเปราะบางที่สำคัญ เมื่อ

- นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความผันผวน: ปัญหาเศรษฐกิจโลก หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเดินทาง ทำให้รายได้ของ SPA ไม่มั่นคง

- การแข่งขันสูงขึ้น: ตลาดนวดและสปามีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาก ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ SPA ต้องใช้งบประมาณการตลาดและลดราคาเพื่อดึงลูกค้า ซึ่งกระทบต่ออัตรากำไรโดยตรง

.

โอกาสและความเสี่ยง อยู่ตรงไหน ?

1. ระยะสั้น (ปี 2568): ยังคงท้าทาย

ฝ่ายบริหารยังคงมุมมองระมัดระวัง คาดการณ์การเติบโตค่อนข้างทรงตัว และอาจมีการปรับลดประมาณการกำไรลงอีก การฟื้นตัวยังคงขึ้นอยู่กับการกลับมาของนักท่องเที่ยวและการควบคุมค่าใช้จ่าย

2. ระยะยาว (7-10 ปี): การปรับตัวคือหัวใจ

แม้มี guidance เชิงอนุรักษ์นิยม แต่การเติบโตยังคงอิงกับการท่องเที่ยว หาก SPA ยังคงพึ่งพิงตลาดต่างชาติเป็นหลัก ก็จะเผชิญความผันผวนสูง การขยายฐานลูกค้าในประเทศ หรือพัฒนาบริการใหม่ๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและลดความเสี่ยง

.

อ่านมาถึงตรงนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าบทวิเคราะห์หลายแห่งต่างปรับเป้าหุ้น SPA ลงค่อนข้างมาก

แม้แบรนด์แข็งแกร่ง แต่โมเดลธุรกิจที่พึ่งพิงการท่องเที่ยวและเผชิญการแข่งขันสูง ยังคงเป็นความเสี่ยงหลักต่อความสามารถในการทำกำไร

.

SPA เป็นธุรกิจที่มีสินทรัพย์เบา (Asset-light) ซึ่งเป็นข้อดี แต่การเติบโตในอนาคตต้องหาจุดสมดุลใหม่ที่ไม่ได้พึ่งพิงการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว หากขยายฐานลูกค้าในประเทศและพัฒนาบริการที่หลากหลายได้ ก็จะเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน นักลงทุนยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์การท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนผลประกอบการของ SPA

.

หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาเชียร์ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใด

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

#Stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #ประเทศไทย #เศรษฐกิจ #การลงทุน #การเงิน

 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง