สรุป "SINGTEL" บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่สุดในสิงคโปร์
DR ในตลาดหุ้นไทยที่ให้ผลตอบแทนไปแล้ว +28% ภายใน 6 เดือน
.
ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยผันผวน การปรับพอร์ตไปลงทุนหุ้นต่างประเทศถือเป็นการลงทุนทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
และวิธีการที่ง่ายที่สุด คือ การลงทุนผ่าน 'DR' (Depositary Receipt) ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงหุ้นคุณภาพดีในต่างประเทศ
ตัวอย่าง DR ที่สร้างผลตอบแทนอย่างโดดเด่นให้กับนักลงทุนไทย คงหนีไม่พ้น "SINGTEL80"
โดยราคา DR ของ SINGTEL80 ปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า +28% ภายใน 6 เดือน สอดคล้องกับราคาหุ้นอ้างอิง "Singtel" ที่ +28% ด้วยเช่นเดียวกัน
SINGTEL80 ทำธุรกิจอะไร น่าสนใจตรงไหน แล้วทำไมราคาหุ้นถึงบวกขึ้นมามาก
วันนี้ Stock2morrow จะสรุปสั้นๆให้ฟัง

.
Singtel เป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์ และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีฐานลูกค้าจำนวนมากจากการลงทุนในบริษัทโทรคมนาคมต่างๆ ทั่วเอเชีย เช่น Optus ในออสเตรเลีย, Airtel ในอินเดีย, Telkomsel ในอินโดนีเซีย, Globe Telecom ในฟิลิปปินส์ และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน Advanced Information Services (AIS)
Singtel มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange หรือ SGX) ภายใต้สัญลักษณ์ Z74 ครับ และเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับต้นๆ ของ SGX ด้วย นอกจากนี้ Temasek Holdings ซึ่งเป็นหน่วยงานการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Singtel
.
ผลประกอบการของ Singtel รายได้รวม อยู่ที่ 14,146 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น +0.1% จากปี 2024 ที่ทำได้ 14,128 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
Singtel มีการดำเนินงานทั้งในสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และลงทุนในบริษัทโทรคมนาคมในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งมีผลต่อรายได้รวม แบบนี้
- Optus (ออสเตรเลีย): เป็นส่วนสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับ Singtel โดยมี operating revenue และ EBITDA เพิ่มขึ้น 1% และ 6% ตามลำดับ โดยหลักมาจากประสิทธิภาพของบริการ Mobile ที่ดีขึ้นและการบริหารต้นทุนที่ดี
- Singtel Singapore (สิงคโปร์): ยังคงแข็งแกร่งในตลาดที่ท้าทาย โดย EBITDA เพิ่มขึ้น 2% จากการเติบโตในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) และกลุ่ม ICT รวมถึงการควบคุมต้นทุน อย่างไรก็ตาม Operating revenue ลดลง 2% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของบริการเก่า (legacy carriage services)
- NCS: (ส่วนธุรกิจด้านเทคโนโลยีและบริการดิจิทัล) Operating revenue เพิ่มขึ้น 5% โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจ Gov+ ที่เติบโตตามความต้องการบริการคลาวด์ ข้อมูล และดิจิทัล ส่วน EBITDA และ EBIT เพิ่มขึ้น 25% และ 39% ตามลำดับ จากอัตรากำไรที่ดีขึ้นและการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุน
- Regional Associates (บริษัทร่วมในภูมิภาค): เช่น Airtel (อินเดีย), AIS (ไทย), Telkomsel (อินโดนีเซีย) และ Globe Telecom (ฟิลิปปินส์) ยังคงมีผลงานที่แข็งแกร่ง และมีส่วนสำคัญต่อกำไรก่อนภาษี (pre-tax earnings) ของ Singtel ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.9% (หรือ 9.7% เมื่อคิดที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่)
.
เรียกได้ว่า ภาพรวมรายได้รวมของ Singtel จะค่อนข้างทรงตัวในปีล่าสุด
แต่การเติบโตของกำไร (Underlying Net Profit) และผลงานที่ดีขึ้นจาก Optus, NCS และบริษัทร่วมในภูมิภาค
แสดงให้เห็นถึงการกระจายรายได้และความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักของ Singtel
บทวิเคราห์จาก Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรปกติปี FY2026 (สิ้นสุด มี.ค. 26) เติบโต 12.8% YoY จาก Optus (ธุรกิจโทรคมนาคมในออสเตรเลีย) และ NCS (ธุรกิจ Consult ด้าน IT, Cloud, AI และ Cybersecurity) ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง และให้ราคาเป้าหมาย 4.34 SGD ต่อหุ้น หรือราวๆ 11 บาท ถ้าคิดเป็น DR ในตลาดหุ้นไทย พร้อม Dividend อีกประมาณ 5%
.
ถ้าเราไปดูราคาหุ้น จะพบว่าราคากำลังไต่ระดับ New High อย่างต่อเนื่อง สาเหตุเป็นเพราะว่า
1. แนวโน้มผลประกอบการยังแข็งแกร่ง
2. ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นสิงคโปร์มีแรงเทขายจากช่วงเหตุการณ์ภาษีทรัมป์ ทำให้นักลงทุนปรับพอร์ตไปหุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดอย่าง Singtel
3. ปัจจัยบวกแรงหนุนจากการซื้อหุ้นคืน
โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Singtel ประกาศซื้อหุ้นคืนครั้งแรกของบริษัท มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ซึ่งหุ้นที่ถูกซื้อคืนไปจะถูกยกเลิก ทำให้สัดส่วนการเป็นเจ้าของผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มขึ้น และ EPS ก็เพิ่มขึ้นด้วย
SINGTEL80 ถือเป็นอีกหนึ่ง DR ชั้นดีในตลาดหุ้นไทย ที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกันต่อไปครับ
.
หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้มีเจตตาเชียร์ซื้อหรือขายหุ้น แต่อย่างใด
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน ทุกครั้ง