วิเคราะห์สาเหตุ ทำไมเกิดสงคราม ทองยิ่งราคาแพง ?
.
เราเคยสงสัยไหมว่า เวลามีข่าวเรื่องสงคราม สินทรัพย์อย่างทองคำมักจะพุ่งก่อนสินทรัพย์อื่น
ไม่ใช่แค่ในภาวะสงครามอย่างเดียว แต่เวลาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือภาวะที่มีความไม่แน่นอน ราคาทองคำมักจะพุ่งสูงก่อนเพื่อน
เพราะเหตุใด Stock2morrow จะมาเล่าให้ฟัง
.

เหตุผลข้อแรก : โลกเรามองว่า ทองคำคือสินทรัพย์ปล่อยภัย ยามวิกฤต
ในยามสงคราม ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่ครอบงำทุกสิ่ง การเมืองโลกปั่นป่วน เศรษฐกิจหยุดชะงัก และตลาดการเงินมีความผันผวนรุนแรง
นักลงทุนจะสูญเสียความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น พันธบัตร หรือแม้แต่สกุลเงินประจำชาติที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้ง
ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะมองหา "หลุมหลบภัย" (Safe Haven Asset) ที่สามารถรักษามูลค่าของเงินลงทุนไว้ได้
และ 'ทองคำ' คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ
ทองคำมีคุณสมบัติเฉพาะตัวคือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลหรือสถานะของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
ทำให้เป็นที่พึ่งพิงยามที่ความมั่นคงในระบบการเงินกระดาษสั่นคลอน
เมื่ออุปสงค์สำหรับทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากนักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการความปลอดภัย ราคาย่อมพุ่งสูงขึ้นตามกลไกตลาด
.
เหตุผลข้อที่สอง : การอ่อนค่าของสกุลเงินและภาวะเงินเฟ้อ
สงครามมักนำไปสู่การใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเพื่อสนับสนุนการทัพ ซึ่งบ่อยครั้งนำไปสู่การ พิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้น หรือการกู้ยืมเงินจำนวนมาก
สิ่งเหล่านี้จะทำให้ สกุลเงินหลักอ่อนค่าลง และก่อให้เกิด ภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรง กำลังซื้อของเงินกระดาษจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาสินค้าและบริการพุ่งสูงขึ้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทองคำจะถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและการเสื่อมค่าของเงิน
เพราะทองคำมีปริมาณจำกัดและรักษามูลค่าไว้ได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไม่จำกัด
เมื่อเงินด้อยค่าลง ผู้คนจึงหันไปหาทองคำเพื่อรักษามูลค่าของความมั่งคั่งไว้ ยิ่งความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและค่าเงินเพิ่มขึ้นเท่าใด ความต้องการทองคำก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
.
เหตุผลข้อที่สาม : ความกังวลในระบบการเงินโลก
สงครามขนาดใหญ่อาจสั่นคลอนความเชื่อมั่นใน ระบบธนาคารและการเงินระหว่างประเทศ
หรือพูดง่ายๆ คือ นักลงทุนอาจกังวลว่าธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจล้มละลาย ระบบการชำระเงินอาจหยุดชะงัก
หรือแม้กระทั่งทรัพย์สินที่อยู่ในบัญชีธนาคารอาจไม่ปลอดภัย
การถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก จึงช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้
เพราะนักลงทุนสามารถถือครองทองคำได้โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาระบบธนาคารหรือตัวกลางทางการเงินใด ๆ
ยิ่งความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของระบบการเงินลดลงเท่าไหร่ ทองคำก็จะยิ่งถูกมองว่าเป็นที่พึ่งที่สำคัญมากขึ้นเท่านั้น
.
เหตุผลข้อที่สี่ : อุปทานที่จำกัดและการเก็งกำไร
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นได้ คือ อุปทาน (Supply - ความต้องการขาย) ที่มีอยู่อย่างจำกัด
พูดง่ายๆ คือ อุปทานทองคำจากเหมืองแร่ ทั่วโลกไม่ได้เพิ่มขึ้น มันมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งต้องใช้เวลาและต้นทุนมหาศาลในการสำรวจและผลิต
เมื่ออุปสงค์ (Demand - ความต้องการซื้อ)เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ความต้องการขายไม่เพิ่มขึ้น ก็จะเกิดภาวะอุปสงค์ล้นตลาด
ซึ่งเป็นแรงสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ไม่แน่นอน นักลงทุนจำนวนมากยังเข้าซื้อทองคำเพื่อ "เก็งกำไร"
คาดการณ์ว่าราคาจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปอีกในอนาคต ซึ่งพฤติกรรมการซื้อที่มากเกินไปนี้ก็ยิ่งส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปอีก
.
ดังนั้น การที่ทองคำมีราคาแพงขึ้นเมื่อเกิดสงครามจึงเป็นผลลัพธ์ที่ซับซ้อนของการผสมผสานระหว่างสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความอ่อนค่าของสกุลเงิน ความกังวลในระบบการเงิน การที่อุปทานมีจำกัด และการเก็งกำไรในตลาด
ทำให้ทองคำเป็นตัวสะท้อนที่ชัดเจนของความกังวลและความไม่แน่นอนที่แผ่กระจายไปทั่วโลกในยามสงคราม
#Stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน#ราคาทองคำ #สงคราม