#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน
#แนวคิดด้านการลงทุน
#มือใหม่เริ่มลงทุน
#วางแผนการเงิน

ลงทุนหุ้นนอก Pop Mart (9992.HK) หุ้น "กล่องสุ่ม" ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
42 views

ลงทุนหุ้นนอก Pop Mart (9992.HK) หุ้น "กล่องสุ่ม" ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

.

ในสภาวะที่ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียผันผวนในช่วงที่ผ่านมา แต่รู้หรือไม่ว่ามีหุ้นตัวหนึ่งที่เป็นดาวเด่นและถูกจับตาอย่างมาก

นั้นก็คือ หุ้น Pop Mart (9992.HK) ด้วยปรากฏการณ์ของ "Blind Box" หรือกล่องสุ่มที่สร้างความตื่นเต้นและดึงดูดใจผู้บริโภคได้อย่างมหาศาล ทำให้ Pop Mart ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัทของเล่น แต่เป็นผู้สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าจับตา

.

 

จุดเริ่มต้นของ Pop Mart ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยคุณหวังหนิง (Wang Ning)

โดยเปิดร้านเล็กๆที่นำเข้าของเล่นจากต่างประเทศ แต่ไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เพราะของเล่นที่เขานำเข้ามา ตัวไหนที่นิยมก็มักจะขายได้

ตัวไหนที่หมดกระแสหรือไม่นิยม ก็จะกลายเป็นสินค้าคงคลังที่ขายไม่ออกจนต้องยอมตัดใจขายขาดทุนออกไป

จนกระทั่งเขาเริ่มเห็น ศักยภาพอันมหาศาลของ Art Toy และตัดสินใจพลิกโฉมธุรกิจครั้งสำคัญ โดยหันมาเน้นการสร้างสรรค์และบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property - IP) ของตัวเอง รวมถึงการร่วมมือกับศิลปินชื่อดังเพื่อออกแบบตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์

จุดเปลี่ยนสำคัญคือการนำเสนอโมเดล "Blind Box" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความตื่นเต้นด้วยการให้ผู้บริโภคได้ลุ้นว่าข้างในกล่องสุ่มจะมีตัวละครอะไร ทำให้เกิดกระแสการสะสมและสร้างฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จนี้ได้นำพา Pop Mart เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในรหัสหลักทรัพย์ 9992.HK เมื่อปี 2020 และยังคงเดินหน้าขยายอาณาจักรธุรกิจไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

.

ผลประกอบการของ PopMart ที่ผ่านมา

ปี 2021 บริษัทมีรายได้ 4.49 พันล้านหยวน และกำไรสุทธิ 854 ล้านหยวน

ปี 2022 บริษัทมีรายได้ 4.61 พันล้านหยวน และกำไรสุทธิ 476 ล้านหยวน

ปี 2023 บริษัทมีรายได้ 6.30 พันล้านหยวน และกำไรสุทธิ 1.08 พันล้านหยวน

ปี 2024 บริษัทมีรายได้ 13.03 พันล้านหยวน และกำไรสุทธิ 3.12 พันล้านหยวน

จะเห็นได้ว่าปีหลังๆ PopMart เติบโตเกือบ 2 เท่า สะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น

1. รายได้จากตลาดต่างประเทศ เติบโตสูงถึง 375.2% ในปี 2024

2. ความนิยมใน IP ที่แข็งแกร่งอย่าง LABUBU ที่โด่งดังไปทั่วโลก

และในปี 2024 ก็ออกอีก 4 IP หลัก คือ THE MONSTERS, MOLLY, SKULLPANDA, และ CRYBABY ที่สร้างรายได้เกิน 1 พันล้านหยวนต่อตัว แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาและขยายฐานแฟนคลับของ IP หลัก

3. การขยายตลาดช่องทางออนไลน์ เช่น Pop Mart Global, TikTok และ Shopee มีการเติบโตที่โดดเด่นอย่างมาก

4. การบริหารจัดการสินค้าคงคลังจาก 133 วัน เหลือ 102 วันในปี 2024 ช่วยเพิ่มกระแสเงินสดและลดต้นทุน

5. อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูงถึง 67% ในปี 2024

.

ไม่ใช่เพียงแค่ของเล่นอย่างเดียว แต่ PopMart พยายามกระจายสินค้า Art Toy ออกไปหลากหลายกลุ่ม โดยปัจจุบันรายได้มาจาก 4 กลุ่มหลัก คือ

1. ตุ๊กตาสะสม (Figurines) 53% ของรายได้รวม

2. ตุ๊กตาผ้า (Plush Toys) 22% ของรายได้รวม

3. MEGA Collection 13% ของรายได้รวม - สินค้า Art Toy ขนาดพิเศษสำหรับนักสะสมระดับพรีเมียม

4. Accessories & Lifestyle 12% ของรายได้รวม

.

จุดแข็งของ PopMart และกลยุทธ์ในอนาคตเพื่อการเติบโต

การมีฐานลูกค้าชัดเจน การโตทั้งในจีนและต่างประเทศ เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆผ่านการเปิดร้านค้า และติดตั้ง เครื่องขายอัตโนมัติ (Roboshop) ในทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมไปกับการพัฒนา IP ใหม่ๆให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดึงดูให้สะสมและเกิดความผูกพันทางอารมณ์

จุดแข็งอีกอย่างหนึ่ง คือ ระบบนิเวศแบบครบวงจร ตั้งแต่การสร้าง IP การผลิต การจัดจำหน่าย ไปจนถึงการสร้าง ชุมชนผู้บริโภค ผ่านแอปพลิเคชันที่เปิดให้สมาชิกแลกเปลี่ยนตุ๊กตา แชร์ประสบการณ์ และติดตามข่าวสารใหม่ ๆ สิ่งนี้เองที่ช่วยสร้าง ความภักดีของลูกค้า (customer loyalty) และกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Pop Mart ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของนักสะสมทั่วโลก

.

จุดที่ต้องระวัง ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องรู้

แม้ว่า Pop Mart จะได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ ที่ต่างพยายามใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างและนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Funko (FNKO - NASDAQ)

นอกจากนี้ ธุรกิจประเภทของเล่น ของสะสม หัวใจสำคัญอยู่ที่ความสดใหม่ของสินค้าและการออกแบบตัวละคร เป็นสิ่งที่มีความท้าทาย

เพราะเราต้องไม่ลืมว่าความสนใจของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นด้วยแล้วการไม่เป็นกระแส สินค้าล้าสมัยหรือไม่มีกลยุทธ์ทางการตลาดเพียงพออาจจะทำให้สินค้าขายยาก และสูญเสียวามได้เปรียบในตลาดอย่างรวดเร็ว

.

และอีกจุดความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือ ราคาหุ้น

เพราะราคาหุ้น PopMart พุ่งไปแล้วกว่า +500% ภายใน 12 เดือน เรียกได้ว่าสะท้อนความคาดหวังและการเติบโตเอาไว้พอสมควร

ด้วยค่า P/E ที่สูงถึง 77 เท่า ถ้าผลประกอบการไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ก็อาจจะเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนขายหุ้นออกมาได้ด้วยเหมือนกัน

.

สุดท้าย นักลงทุนไทยสามารถซื้อหุ้น Pop Mart International Group Limited ได้แล้วผ่าน 'DR' ในตลาดหุ้นไทย

ชื่อย่อหลักทรัพย์ "POPMART80" อัตราอ้างอิงหุ้น POPMART 1 หุ้น : DR 100 หน่วย

โดยมี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ออก

.

หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะเชียร์ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใด

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

.

แถมท้ายข้อมูลอีกนิด เกี่ยวกับ Funko

Funko Inc. เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ผลิตของสะสมวัฒนธรรมป๊อปที่มีลิขสิทธิ์และมีจำนวนจำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 โดย Mike Becker และเป็นที่รู้จักมากที่สุดจาก "Funko Pop! Vinyl Figures" หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "Funko Pop!" ซึ่งเป็นฟิกเกอร์ไวนิลหัวโต ตากลมโต ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โดย Funko จะเน้นไปที่การซื้อลิขสิทธิ์เฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จ เช่น Disney, Marvel,Star Wars, Harry Potter และตัวละครจากวีดีเกม และเน้นไปที่การเห็นของก่อนซื้อ (แตกต่างจาก Popmart ที่เป็นกล่องสุ่ม)

ซึ่ง Funko เน้นชัดว่าการตลาดของบริษัทเน้นไปที่ "ความคุ้นเคย" และ "แฟรนไชส์ที่รัก" ของผู้บริโภค

ดังนั้นสินค้าแต่ละชนิดสามารถขายตัวมันเองได้โดยไม่ต้องโฆษณามากนัก

Funko Inc. มีซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ ในชื่อย่อหลักทรัพย์ 'FNKO'

#Stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #PopMart #หุ้นต่างประเทศ

 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง