รู้จัก G-Token เจาะลึกโทเคนดิจิทัลรัฐบาล ลงทุนง่าย ได้ผลตอบแทน
.
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ประชุม ครม. ไฟเขียวครั้งสำคัญ!
อนุมัติการกู้เงินรูปแบบใหม่ด้วยการออก "ไทยแลนด์ดิจิทัลโทเคน" หรือ G-Token วงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท
คาดว่าจะคลอดออกมาให้ได้ยลโฉมภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้
เบื้องลึกเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลคืออะไร? ทำไมต้องเป็น "ดิจิทัลโทเคน"?
วันนี้ Stock2morrow จะมาเล่าให้ฟัง
.

ที่มาที่ไป ทำไมรัฐบาลถึงสนใจ G-Token ?
ก่อนหน้านี้ ครม. ได้อนุมัติกรอบการกู้เงินประจำปีงบประมาณ 2568 ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 แต่ล่าสุด กระทรวงการคลังมองเห็นโอกาสใหม่ในการระดมทุนที่น่าสนใจ นั่นก็คือการนำ "นวัตกรรมทางการเงิน" อย่าง "โทเคนดิจิทัล" มาใช้ในการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
.
สาระสำคัญ: G-Token คืออะไร ? แล้วใครบ้างที่มีสิทธิ์ซื้อ ?
กระทรวงการคลังได้ร่างประกาศสำคัญออกมา โดยมีใจความหลักคือการ ให้อำนาจกระทรวงการคลังออก G-Token เพื่อระดมทุนโดยตรงจากผู้สนใจซื้อ ผ่านตัวกลางที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
.
ประเด็นสำคัญที่ควรรู้ คือ
1. ผู้ออก: กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก G-Token โดยตรง ภายใต้กรอบวงเงินที่ ครม. อนุมัติ
2. ตัวแทนจำหน่าย: กระทรวงการคลังอาจมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นตัวแทนในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การเสนอขายโทเคน การดูแลระบบ และการรับฝากโทเคน
3. หลักเกณฑ์การซื้อ: กระทรวงการคลังจะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการเสนอขาย รวมถึงประเภทของผู้มีสิทธิ์ซื้อ (เช่น บุคคลธรรมดา นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร) วงเงิน อายุ และอัตราดอกเบี้ย
4. การจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้น: กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย จะทำการโอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคนตามข้อมูลที่นายทะเบียนแจ้ง
5. การโอน G-Token: สามารถทำได้ผ่านระบบของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ผู้โอนมีบัญชีอยู่ โดยการโอนจะมีผลสมบูรณ์เมื่อมีการบันทึกการรับโอนในบัญชีของผู้รับเรียบร้อยแล้ว
.
ทำความรู้จัก G-Token ให้มากขึ้น เปรียบเทียบ G-Token และ พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม
Government Token (G-Token) คือ โทเคนดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลไทยผ่านกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นช่องทางใหม่ในการระดมทุนและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับประชาชน ซึ่งคล้ายกับพันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม
คำถาม คือแล้วทั้ง 2 เครื่องมือแตกต่างกันตรงไหน ?
1. รูปแบบ
G-Token : สินทรัพย์ดิจิทัล
พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม : เอกสาร หรือระบบไร้ใบหลักทรัพย์
2. ช่องทางซื้อ
G-Token : ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม : ธนาคารพาณิชย์ หรือตัวแทนจำหน่าย
3. ตลาดรอง
G-Token : ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม : ตลาดตราสารหนี้
4. มูลค่าขั้นต่ำ
G-Token : อาจต่ำกว่า เพื่อให้รายย่อยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม : มักมีมูลค่าขั้นต่ำค่อนข้างสูง
5. ความคล่องตัว
G-Token : สูง ซื้อขายได้ง่าย
พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม : มีควางคล่องตัวที่น้อยกว่า
.
สรุปสุดท้าย คือ G-Token ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ของประเทศไทยที่ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการระดมทุนของภาครัฐ เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐได้ง่ายขึ้น
การออก G-Token ไม่เพียงแต่จะช่วยให้รัฐบาลมีช่องทางใหม่ในการระดมทุน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินดิจิทัลของประเทศอีกด้วย นักลงทุนที่สนใจควรติดตามข้อมูลจากกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนใน G-Token ในอนาคตอันใกล้นี้
#Stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #GToken #Thailand #ประเทศไทย #การเงิน #การลงทุน