#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน
#แนวคิดด้านการลงทุน
#วางแผนการเงิน

สรุป Netflix ทำอย่างไรให้รายได้โต ผู้ใช้เพิ่ม ถึงแม้จะปรับราคาแพ็กเกจให้แพงขึ้น

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
288 views

สรุป Netflix ทำอย่างไรให้รายได้โต ผู้ใช้เพิ่ม ถึงแม้จะปรับราคาแพ็กเกจให้แพงขึ้น

.

ผลประกอบการของ Netflix ใน 1Q2025 ออกมาแล้วสร้างเซอรไพรส์ให้กับตลาดค่อนข้างมาก

โดยรายได้เติบโต 13% YoY และกำไรก็โตมากถึง 25% YoY ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน

.

 

สรุปผลประกอบการที่น่าสนใจรอบนี้

- Netflix มีรายได้ 1.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต +13% YoY

- กำไรจากการดำเนินงาน ทำ New High อยู่ที่ 3.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 27% YoY

- อัตรากำไรจากการดำเนิงาน (Operating Margin) อยู่ที่ 31.7% จากเดิมที่ทำได้ 28.6% 

- กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 6.61 เหรียญต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น +25% YoY 

- กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) อยู่ที่ 2.66 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต +24% YoY 

.

โดยฝ่านบริหารของ Netflix แสดงความเห็นว่าสาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตมาจาก

1. การเปิดตัวคอนเทนต์ซีรีย์ระดับโลก และได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Adolescence จากประเทศอังกฤก

2. การปรับเพิ่มราคาสมาชิกในบางประเทศ และยอดผู้ใช้ก็เติบโต 

- ในอเมริกาและแคนาดา ยอดผู้ใช้เติบโต 9%

- ในยุโรปแลบะตะวันออกกลาง ยอดผู้ใช้เติบโต 15%

- อเมริกาใต้ ยอดผู้ใช้เติบโต 8% 

- เอเชียแปซิฟิก เติบโตสูงมาก 23% 

เป็นการตอกย้ำว่า Netflix ยังเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรม ยอดผู้ใช้มั่นคง คอนเทนต์มีคุณภาพ

3. การเริ่มออกบริการใหม่ คือ ขยายบริการแบบมีโฆษณา หรือที่เรียกว่า Netflix Ads Suite ซึ่งเริ่มใช้งานแล้วในอเมริกา ได้รับการตอบรับที่ดี และมีแผนจะขยายไปทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้

.

ผู้บริหาร Netflix มองว่าสาเหตุที่มีการปรับราคาขึ้น แต่ยอดผู้ใช้ก็ยังเพิ่ม 

เพราะผู้บริโภคมองว่าการรับชมคอนเทนต์ผ่านสตรีมมิ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ความคุ้มค่า ได้ใช้เวลากับครอบครัว

และที่สำคัญ คือ การมีแพ็กเกจที่หลากหลายระดับราคา ทำให้ Netflix ถูกมองว่าเป็น Affordable Luxury

หรือพูดง่ายๆ คือ สินค้าฟุ่มเฟื่อมที่เข้าถึงได้ในสายตาของผู้บริโภค แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจอเมริกากำลังมีปัญหา

.

ทั้งนี้ ทีมผู้บริหารยังไม่เห็นสัญญาณเชิงลบจากภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการภาษีของอเมริกา

บริษัทมีแผนขยายราคาเพิ่มขึ้น การรับชมแบบมีโฆษณา รวมถึงการเปิดตัวซีรีย์ใหม่ๆในแพลตฟอร์ม เช่น Stranger Things 

ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตและค่าการตลาดเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้

สำหรับไตรมาส 2 บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะยังเติบโตต่อเนื่อง อีก +15% YoY มาอยู่ที่ 1.104 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 

และคาดว่ารายได้ทั้งปีน่าจะอยู่ราวๆ 4.45 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ +29% 

.

บทวิเคราะห์ มองว่า Netflix เป็นบริษัทที่มีความสามารถในการสร้างกำไร

โดยเปลี่ยนรายได้ให้กลายเป็นกำไรและกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกทั้งการปรับแพ็กเกจให้มีการเข้าถึงโฆษณา จะถือเป็น S-Curve ใหม่ เพราะ Netflix มีฐานสมาชิกจำนวนมากและมี Engagement บนแพตฟอร์มตลอดเวลา ทำให้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขยายอัตรากำไรในระยะยาว

พูดง่ายๆ คือ Netflix กำลังอยู่ระหว่างการนำสมาชิกที่มีอยู่และที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ไปสู่ประสิทธิภาพการทำกำไรผ่านแหล่งรายได้ใหม่ๆ คือ โฆษณา ถือเป็นการ Shift Narrative ไปสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ 

จากภาพเก่าๆที่เน้นจำนวนสมาชิกเยอะๆ เน้นปริมาณไว้ก่อนซึ่งไม่สอดคล้องกับการเติบโตอย่างยั่งยืน

.

== ความเสี่ยงของ Netflix ที่ต้องระวัง ==

1. ค่าใช้จ่ายในการสร้างคอนเทนต์ ผลิตซีรีย์ ค่าการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น

2. ผู้ใช้อาจจะน้อยลงในอนาคต ถ้าไม่มีคอนเทนต์อะไรใหม่ๆ

3. การแข่งขันที่รุนแรง

4. รายได้จากโฆษณาที่อาจจะโตช้า ไม่ทันอย่างที่ตลาดคิดกันเอาไว้

.

ทั้งนี้ หุ้น Netflix ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว +10% ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา หรือ +76% ในรอบ 12 เดือน 

ถือเป็นหุ้นที่ Outperform ตลาดขึ้นมาค่อนข้างมากสอดคล้องกับผลประกอบการที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น

 

 

#stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #หุ้นไทย #SET


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง