สรุป Netflix ทำอย่างไรให้รายได้โต ผู้ใช้เพิ่ม ถึงแม้จะปรับราคาแพ็กเกจให้แพงขึ้น
.
ผลประกอบการของ Netflix ใน 1Q2025 ออกมาแล้วสร้างเซอรไพรส์ให้กับตลาดค่อนข้างมาก
โดยรายได้เติบโต 13% YoY และกำไรก็โตมากถึง 25% YoY ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน
.

สรุปผลประกอบการที่น่าสนใจรอบนี้
- Netflix มีรายได้ 1.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต +13% YoY
- กำไรจากการดำเนินงาน ทำ New High อยู่ที่ 3.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 27% YoY
- อัตรากำไรจากการดำเนิงาน (Operating Margin) อยู่ที่ 31.7% จากเดิมที่ทำได้ 28.6%
- กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 6.61 เหรียญต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น +25% YoY
- กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) อยู่ที่ 2.66 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต +24% YoY
.
โดยฝ่านบริหารของ Netflix แสดงความเห็นว่าสาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตมาจาก
1. การเปิดตัวคอนเทนต์ซีรีย์ระดับโลก และได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Adolescence จากประเทศอังกฤก
2. การปรับเพิ่มราคาสมาชิกในบางประเทศ และยอดผู้ใช้ก็เติบโต
- ในอเมริกาและแคนาดา ยอดผู้ใช้เติบโต 9%
- ในยุโรปแลบะตะวันออกกลาง ยอดผู้ใช้เติบโต 15%
- อเมริกาใต้ ยอดผู้ใช้เติบโต 8%
- เอเชียแปซิฟิก เติบโตสูงมาก 23%
เป็นการตอกย้ำว่า Netflix ยังเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรม ยอดผู้ใช้มั่นคง คอนเทนต์มีคุณภาพ
3. การเริ่มออกบริการใหม่ คือ ขยายบริการแบบมีโฆษณา หรือที่เรียกว่า Netflix Ads Suite ซึ่งเริ่มใช้งานแล้วในอเมริกา ได้รับการตอบรับที่ดี และมีแผนจะขยายไปทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้
.
ผู้บริหาร Netflix มองว่าสาเหตุที่มีการปรับราคาขึ้น แต่ยอดผู้ใช้ก็ยังเพิ่ม
เพราะผู้บริโภคมองว่าการรับชมคอนเทนต์ผ่านสตรีมมิ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ความคุ้มค่า ได้ใช้เวลากับครอบครัว
และที่สำคัญ คือ การมีแพ็กเกจที่หลากหลายระดับราคา ทำให้ Netflix ถูกมองว่าเป็น Affordable Luxury
หรือพูดง่ายๆ คือ สินค้าฟุ่มเฟื่อมที่เข้าถึงได้ในสายตาของผู้บริโภค แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจอเมริกากำลังมีปัญหา
.
ทั้งนี้ ทีมผู้บริหารยังไม่เห็นสัญญาณเชิงลบจากภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการภาษีของอเมริกา
บริษัทมีแผนขยายราคาเพิ่มขึ้น การรับชมแบบมีโฆษณา รวมถึงการเปิดตัวซีรีย์ใหม่ๆในแพลตฟอร์ม เช่น Stranger Things
ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตและค่าการตลาดเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้
สำหรับไตรมาส 2 บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะยังเติบโตต่อเนื่อง อีก +15% YoY มาอยู่ที่ 1.104 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
และคาดว่ารายได้ทั้งปีน่าจะอยู่ราวๆ 4.45 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ +29%
.
บทวิเคราะห์ มองว่า Netflix เป็นบริษัทที่มีความสามารถในการสร้างกำไร
โดยเปลี่ยนรายได้ให้กลายเป็นกำไรและกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งการปรับแพ็กเกจให้มีการเข้าถึงโฆษณา จะถือเป็น S-Curve ใหม่ เพราะ Netflix มีฐานสมาชิกจำนวนมากและมี Engagement บนแพตฟอร์มตลอดเวลา ทำให้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขยายอัตรากำไรในระยะยาว
พูดง่ายๆ คือ Netflix กำลังอยู่ระหว่างการนำสมาชิกที่มีอยู่และที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ไปสู่ประสิทธิภาพการทำกำไรผ่านแหล่งรายได้ใหม่ๆ คือ โฆษณา ถือเป็นการ Shift Narrative ไปสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ
จากภาพเก่าๆที่เน้นจำนวนสมาชิกเยอะๆ เน้นปริมาณไว้ก่อนซึ่งไม่สอดคล้องกับการเติบโตอย่างยั่งยืน
.
== ความเสี่ยงของ Netflix ที่ต้องระวัง ==
1. ค่าใช้จ่ายในการสร้างคอนเทนต์ ผลิตซีรีย์ ค่าการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
2. ผู้ใช้อาจจะน้อยลงในอนาคต ถ้าไม่มีคอนเทนต์อะไรใหม่ๆ
3. การแข่งขันที่รุนแรง
4. รายได้จากโฆษณาที่อาจจะโตช้า ไม่ทันอย่างที่ตลาดคิดกันเอาไว้
.
ทั้งนี้ หุ้น Netflix ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว +10% ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา หรือ +76% ในรอบ 12 เดือน
ถือเป็นหุ้นที่ Outperform ตลาดขึ้นมาค่อนข้างมากสอดคล้องกับผลประกอบการที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น
#stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #หุ้นไทย #SET