บทเรียนจาก JTS และ STARK ปัญหาสำคัญที่ทำให้ SET100 ไม่ไปไหน
ถ้าเราพูดถึงการลงทุนในตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนมือใหม่
.
เรามักจะพูดถึง SET50 และ SET100 หรือหุ้นไทย 50 ตัว - 100 ตัว
ที่เรียกได้ว่าเป็น "เสาหลัก" ของตลาดหุ้นไทย ที่ทางตลาดหลักทรัพย์คัดเลือกมาแล้วว่าเป็นบริษัทชั้นดีที่นักลงทุนสามารถเลือกมาลงทุนได้
แต่ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาของ "หุ้นหลัก" ที่เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีสำคัญอย่าง SET100 ต้องสั่นคลอน และไม่ไปไหนมาเป็นเวลาหลายปี
โดยเฉพาะ JTS และ STARK ที่มีเรื่องของการตกแต่งบัญชี และการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ต้องถูกถอนจากการคำนวณดัชนีไป นักลงทุนเสียหาย ดัชนีหุ้นร่วงอย่างรุนแรง

บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS
โดย JTS มีการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 525 ล้านบาท ที่ครบกำหนดจ่ายเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ชี้สภาวะตลาดไม่เอื้อต่อการระดมทุนใหม่ เป็นเหตุให้โรลโอเวอร์ไม่ได้ตามแผน
ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และฉุดรั้งภาพรวมของ SET100
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศถอดหุ้น JTS ออกจาก SET100-SETESG เหตุผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. เป็นที่เรียบร้อย
.
บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK
ปัญหาหลักของ STARK คือการตกแต่งงบการเงินครั้งใหญ่และข้อกล่าวหาทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนอย่างมาก บริษัทผิดนัดชำระหนี้และไม่สามารถส่งงบการเงินได้ตามกำหนด จนถูกเพิกถอนออกจาก SET100 และตลาดหลักทรัพย์ในที่สุด
การขาดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของ STARK ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันดัชนี SET100 ให้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
.
การที่หุ้น JTS และ STARK ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกันค่อนข้างสูง ประสบปัญหาไล่เลี่ยกัน
ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อดัชนี SET100 น้ำหนักของหุ้นเหล่านี้ในดัชนี ทำให้ความผันผวนและราคาที่ปรับตัวลงอย่างมาก ฉุดให้ดัชนีโดยรวมอ่อนแอลงตามไปด้วย
และไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ราคาหุ้นของบริษัทเองเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้นไทยโดยรวม
นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงระบบการกำกับดูแล และความโปร่งใสของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีหลัก
.
== ประเด็นอยู่ที่ตรงไหน ==
ประเด็นสำคัญ คือ หน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องทบทวนและปรับปรุงมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอย
กฎเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 อาจจะมีบางอย่างที่ผิดพลาด ต้องมีการแก้ไขหลักเกณฑ์ใหม่
การตรวจสอบการดำเนินงานอย่างเข้มงวด และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
.
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับหุ้น JTS และ STARK เป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งการเติบโตของดัชนี SET100 ในปัจจุบัน ความไม่แน่นอนและความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสและการกำกับดูแล ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน การแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังและรวดเร็ว รวมถึงการยกระดับมาตรฐานของตลาดทุนไทย จะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและนำพา SET100 กลับสู่เส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืน
#stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #JTS #STARK #หุ้นไทย #SET