[สรุปไลฟ์] ตลาดไทยถูกถล่มจนถึงจุดถูกมากแล้ว นักลงทุนต่างชาติต้องเข้าแล้ว โดยคุณชวินดา หาญรัตนกูล

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ทีม stock2morrow ได้สัมภาษณ์ คุณชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเปิดใจกองทุน หุ้นไทยเดินหน้าอย่างไรต่อ ? ผ่านช่องทาง Youtube โดยมีใจความสำคัญดังต่อไปนี้

ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง และในปี 2023 นี้ การขายหุ้นจากต่างชาติได้เกิน 100,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในตลาดและส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยแทบไม่เห็นการเติบโตที่ชัดเจน

[3 ปัจจัย หากไทยทำได้จะเนื้อหอมทันที]

ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดไม่มีเสถียรภาพคือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก โดยในปีที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อตอบสนองต่อภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ต่างประเทศอื่น ๆ รวมถึงไทยก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ในปีนี้ สถานการณ์ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed และการประเมินทิศทางเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่ค่อยมั่นใจที่จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย และเริ่มหันไปมองตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในประเทศอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า เช่น ญี่ปุ่นและอินเดีย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรพิจารณาเมื่อพิจารณาการลงทุนในหุ้นไทย

แม้ว่าตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันจะมีความไม่ผันผวนและมีการเติบโตเฉพาะกลุ่มบริษัท แต่ภาพรวมยังมีแนวโน้มบวก โดยที่ EPS (กำไรต่อหุ้น) มีโอกาสเติบโต ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในอนาคต แต่ยังต้องอิงกับการพัฒนาธรรมาภิบาลและมาตรฐานต่าง ๆ ที่ affecting นักลงทุน

“ตลาดไทยถูกแล้ว ถูกถล่มมาจนกระทั่งถึงจุดนึงแล้วล่ะต้องเข้าแล้ว” คุณชวินดา หาญรัตนกูล กล่าว

สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในหุ้นไทย ควรพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย ซึ่งอาจมีผลกระทบจากนโยบายทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อาจส่งผลให้ความมั่นใจในการบริโภคกลับมา ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดทุนได้

โดยรวมแล้ว ตลาดหุ้นไทยยังคงมีศักยภาพในการฟื้นตัว แต่ความสำเร็จนั้นจะขึ้นอยู่กับการปรับตัวของบริษัทต่อเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาธรรมาภิบาล และความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและความพยายามร่วมกันจากทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

สำหรับใครที่อยากฟังฉบับเต็มสามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=FfmRCZoosDM

#Stock2morrow #สื่อสถานบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #KTAM #กองทุน #หุ้นไทย #ชวินดา