5 บทเรียนที่เราได้จากจดหมายผู้ถือหุ้นของ Warren Buffett ประจำปี 2025
มีอะไรบ้าง สรุปแบบเข้าใจง่ายมาให้ได้อ่านกันครับ
1. [ความซื่อสัตย์ผู้บริหารเป็นสิ่งสำคัญ + ที่เกร็ก อาเบล จะมาเป็น CEO ในเบิร์กเชียร์]
ผมอายุ 94 ปีแล้ว คงอีกไม่นานที่เกร็ก อาเบล จะมาแทนที่ผมในตำแหน่ง CEO และจะเขียนจดหมายประจำปี
เกร็กมีความเชื่อเดียวกับเบิร์กเชียร์ว่า "รายงาน" คือสิ่งที่ CEO ของเบิร์กเชียร์เป็นหนี้ผู้ถือหุ้นของบริษัทในแต่ละปี และเขายังเข้าใจด้วยว่าหากคุณเริ่มหลอกลวงผู้ถือหุ้นของคุณ ในไม่ช้าคุณก็จะเชื่อเรื่องไร้สาระของตัวเองและหลอกตัวเองไปด้วย
.
.
2. [ควาผิดพลาดเลือนหายไป ความสำเร็จอยู่ยืนยง]
ในเรื่องของการลงทุน ผมต้องเผชิญกับความผิดพลาดและการตัดสินใจซื้อธุรกิจที่ล้มเหลวไปบ้าง
แต่มันก็มีเรื่องน่ายินดีมากมาย กับการตัดสินใจหลายครั้งนำพาเราไปสู่เส้นทางที่ถูก รวมถึงความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร
จากประสบการณ์ของผม การตัดสินใจที่ถูกต้องเพียงครั้งเดียว ก็สามารถสร้างความแตกต่างอันน่าทึ่งได้ในระยะยาว ตัวอย่างเช่นความสำเร็จของ GEICO ในฐานะการตัดสินใจทางธุรกิจ หรือแม้แต่ Ajit Jain ในฐานะการตัดสินใจด้านการจัดการ
และที่สำคัญที่สุด คือ ชาลี มังเกอร์ หุ้นส่วนของผม ที่ปรึกษาส่วนตัวและเพื่อนแท้ นำพาให้เรามีเบิร์กเชียร์อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ดังนั้น ผมจึงสรุปได้ว่า
"ความผิดพลาดจะค่อยๆ เลือนหายไป แต่ความสำเร็จจะเบ่งบานอย่างไม่มีวันสิ้นสุด"
.
.
3. [อเมริกา ... ตลอดไป]
ทั้งธุรกิจและบุคคลที่มีความสามารถเป็นที่ต้องการ มักจะสามารถปรับตัวรับมือกับความไม่มั่นคงทางการเงินได้ ตราบใดที่สินค้าหรือบริการของพวกเขายังเป็นที่ต้องการของประชาชนในประเทศ
ผมเป็นคนที่ไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรมากนัก ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก รูปร่างหน้าตา ด้านกีฬา การร้องเพลง หรือแม้แต่ทักษะทางการแพทย์หรือกฏหมาย
ผมจึงต้องพึ่งพาการลงทุนในหุ้นมาตลอดชีวิต กล่าวคือ ผมได้ฝากความหวังไว้กับความสำเร็จของธุรกิจอเมริกัน และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป
.
.
4. [โอกาสมีอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าเรารอคอยเป็นไหม]
เป็นที่เข้าใจได้ว่า ธุรกิจที่โดดเด่นอย่างแท้จริงนั้น มักจะไม่ถูกเสนอขายทั้งกิจการ แต่เราสามารถซื้อเศษเสี้ยวเล็กๆ ของอัญมณีเหล่านี้ได้ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และบางครั้งบางคราว ก็มีโอกาสซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า
เราไม่ได้ลำเอียงในการเลือกเครื่องมือการลงทุนในหุ้น โดยลงทุนในหุ้นประเภทใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถนำเงินออมของท่าน (และครอบครัวของผม) ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ที่ไหน บ่อยครั้งที่ไม่มีอะไรดูน่าสนใจเลย แต่ในบางโอกาส เราก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่มีโอกาสมากมาย เกร็กได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาในการลงมือทำในเวลาเช่นนั้นอย่างชัดเจน
.
.
5. [เบิร์กเชียร์มีเงินสดอยู๋ในมือมาก และจะยังคงลงทุนในหุ้นที่เราถนัดต่อไป]
แม้ว่านักวิจารณ์บางคนในปัจจุบันจะมองว่าเบิร์กเชียร์มีเงินสดในมือมากเกินไป แต่เงินส่วนใหญ่ของท่านยังคงอยู่ในหุ้น และความชอบนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง
ในขณะที่มูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดของเราลดลงในปีที่ผ่านมา จาก 354 พันล้านดอลลาร์เป็น 272 พันล้านดอลลาร์ มูลค่าหุ้นที่เราควบคุมซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และยังคงมีมูลค่ามากกว่าพอร์ตหุ้นในตลาดอย่างมาก
ผู้ถือหุ้นเบิร์กเชียร์สามารถมั่นใจได้ว่าเราจะนำเงินส่วนใหญ่ของพวกเขาไปลงทุนในหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นอเมริกัน แม้ว่าหุ้นเหล่านี้จำนวนมากจะมีธุรกิจระหว่างประเทศที่สำคัญก็ตาม เบิร์กเชียร์จะไม่เลือกถือครองสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดมากกว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดี ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เราควบคุมหรือเป็นเจ้าของเพียงบางส่วน
เงินกระดาษสามารถสูญเสียมูลค่าได้หากนโยบายการคลังผิดพลาด ในบางประเทศ การกระทำที่ประมาทนี้กลายเป็นนิสัย และในประวัติศาสตร์อันสั้นของประเทศเรา สหรัฐฯ ก็เคยเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว พันธบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่ได้ให้การป้องกันจากการเสื่อมค่าของเงินอย่างรวดเร็ว
#Stock2morrow #สื่อสถานบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #WarrenBuffett