เทคนิคการเทรดฟอเร็กซ์สำหรับมือใหม่ที่ต้องรู้
การเทรดฟอเร็กซ์ (Forex Trading) หรือการซื้อขายคู่สกุลเงินต่างประเทศไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ ในการลงทุนประเภทนี้ ผู้ที่ซื้อขายฟอเร็กซ์จะอาศัยการทำกำไรจากความแตกต่างของอัตราการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่างๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, ปอนด์สเตอร์ลิง หรือเยนญี่ปุ่น เป็นต้น
จากสถิติจะพบว่า การเทรดฟอเร็กซ์ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตจาก 792.43 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปเป็น 838.54 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 ทั้งนี้ มือใหม่ที่กำลังสนใจในการเทรดฟอเร็กซ์ จำเป็นต้องทำความเข้าใจและการเลือกใช้เทคนิคการเทรดฟอเร็กซ์ที่ถูกต้อง เพื่อช่วยให้คุณมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ดังนั้น ในบทความนี้ ทีมงานของเราได้รวบรวมเอาเทคนิคเบื้องต้นที่คุณควรรู้ในการซื้อขายฟอเร็กซ์มาไว้ให้คุณอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การเทรดประเภทต่างๆ ปัจจัยที่ควรคำนึงในการเทรดฟอเร็กซ์ รวมไปทั้งข้อควรระวังในการลงทุนที่จำเป็นต้องปฏิบัติ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำไมการเทรดฟอเร็กซ์ถึงเป็นที่นิยม?
ตลาดฟอเร็กซ์มีความโดดเด่นและแตกต่างจากตลาดการเงินประเภทอื่น ทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักลงทุนหลายล้านคน ส่วนหนึ่งมากจากการที่เวลาตลาด forex นั้นเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้ผู้ลงทุนจากทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงการเทรดฟอเร็กซ์ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ตลาดฟอเร็กซ์ยังมีสภาพคล่องที่สูงมาก อันเป็นผลมาจากมูลค่าการซื้อขายหลายพันล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน รวมทั้งการที่เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้ เลเวอเรจ (Leverage) ในการเทรดเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเงินทุนจริง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้นนั่นเอง
ปัจจัยที่ควรรู้ในการเทรดฟอเร็กซ์
นอกจากเหนือกจากการทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานของการเทรดฟอเร็กซ์และ
การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดี
แล้ว การเรียนรู้ปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเทรดฟอเร็กซ์ก็เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะการลงทุนของคุณ ด้านล่างนี้คือ ปัจจัยที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความแปรผันสูงอย่าง Forex

เลือกกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ที่เหมาะสม
การเลือก กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ เป็นประเด็นหลักที่คุณควรนำมาพิจารณา กลยุทธ์ที่คุณเลือกควรสัมพันธ์กับสไตล์การเทรดและเป้าหมายการลงทุนของคุณ ซึ่งกลยุทธ์หลักๆ ที่ได้รับความนิยมในตลาดฟอเร็กซ์ ได้แก่:
- Scalping: เป็นกลยุทธ์ที่ทำการเทรดในระยะเวลาอันสั้น เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในปริมาณที่เล็กน้อย แต่บ่อยครั้ง
- Day Trading: จะเป็นการการเทรดฟอเร็กซ์ภายในหนึ่งวัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและค่าธรรมเนียมจากการถือครองตำแหน่งข้ามคืน
- Swing Trading: การเทรดที่ใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ โดยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาที่มีขนาดใหญ่กว่าในระยะสั้น
ปรับใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อการเทรดฟอเร็กซ์
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เป็นเครื่องมือและทักษะที่สำคัญสำหรับฟอเร็กซ์เทรดเดอร์ทั่งหลาย จุดประสงค์หลัก คือ การคาดการณ์ทิศทางของราคาตลาดจากข้อมูลในอดีตเพื่อดูแนวโน้มของตลาดประกอบการตัดสินใจเทรด โดยใช้กราฟราคา และ อินดิเคเตอร์ เช่น Moving Averages, Bollinger Bands, MACD และ RSI (Relative Strength Index) เป็นต้น
- Moving Averages: แสดงการเคลื่อนไหวของราคา ใช้เพื่อหาทิศทางการเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- RSI: ใช้เพื่อบ่งชี้ระดับการซื้อหรือขายที่มากเกินไป
- Bollinger Bands: ใช้เพื่อวิเคราะห์ระดับความผันผวนของราคาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
ระบบการจัดการความเสี่ยง
การจัดการความเสี่ยง เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการเทรดฟอเร็กซ์ สำหรับระบบการจัดการความเสี่ยงที่พบบ่อย เช่น การตั้ง Stop Loss และ Take Profit เพื่อจำกัดการขาดทุนและเก็งกำไรในจำนวนที่ต้องการ
- Stop Loss: เป็นคำสั่งที่ใช้ในการจำกัดการขาดทุน เมื่อราคาตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับราคาที่คุณคาดการณ์ไว้
- Take Profit: เป็นคำสั่งที่ใช้ในเก็บผลกำไร เมื่อราคาตลาดเคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่คุณคาดการณ์ไว้
การใช้เลเวอเรจ (Leverage) อย่างมีประสิทธิภาพ
หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ การใช้เลเวอเรจ คือ การยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดของการเทรด เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของคุณ แต่ในขณะเดียวกัน การใช้เลเวอเรจนี้ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับคำสั่งเทรดของคุณ
การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเมือง
ข่าวสารเศรษฐกิจและการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตราแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงิน และการติดตามความเคลื่อนไหว เช่น การประชุมของธนาคารกลาง (เช่น FED, ECB), การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น Non-Farm Payrolls, GDP และการปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ เป็นต้น จะช่วยให้คุณมีข้อมูลประกอบในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้อย่างดียิ่งขึ้น
กลยุทธ์การเทรดประเภทต่างๆ ในตลาดฟอเร็กซ์
การเลือกกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของคุณเป็นสิ่งสำคัญในการประสบความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ เนื่องจาก กลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุนจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่คาดคิด ด้านล่างนี้คือตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดที่น่าสนใจ
กลยุทธ์การเทรด Scalping
Scalping คือ กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ที่อาศัยการเปิดและปิดตำแหน่งในช่วงเวลาสั้นๆ ในหน่วยนาทีหรือวินาที เพื่อรับกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเพียงแค่ไม่กี่จุด
- ข้อดีของการ Scalping คือ การที่สามารถทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวของราคาได้โดยไม่ต้องเปิดตำแหน่งการซื้อขายไว้นาน
- ข้อเสีย ของ Scalping คือ การเทรดแบบนี้ต้องการความเร็วในการตัดสินใจและต้องทำการติดตามราคาอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจทำให้ผู้เทรดรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้าได้ง่าย
กลยุทธ์การเทรด Day Trading
Day Trading จะเป็นการเปิดและปิดตำแหน่งภายในวันเดียวกัน ทำให้กลยุทธ์นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในแต่ละวัน แต่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการถือโพซิชันข้ามคืน
- ข้อดีของ Day Trading คือ สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเปิดโพซิชันข้ามคืนได้
- ข้อเสีย ของ Day Trading คือ การที่ต้องใช้เวลาในการติดตามตลาดและราคาตลอดทั้งวัน เช่นกัน การเทรดแบบ Scalping
กลยุทธ์การเทรด Position Trading
Position Trading คือ การเทรดที่คุณจะต้องเปิดตำแหน่งการซื้อขายไว้ในระยะยาว ซึ่งอาจนานหลายเดือนหรือหลายปี โดยผู้ที่ต้องการใช้กลยุทธ์นี้จะต้องทำการวิเคราะห์หลายปัจจัยร่วมกัน โดยเฉพาะปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจ, การประชุมของธนาคารกลาง หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน
- ข้อดีของ Position Trading คือ คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวระยะสั้นของราคา และโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
- ข้อเสีย ของ Position Trading คือ ต้องใช้เวลานานกว่าที่จะบรรลุผล และในระหว่างนั้นคุณอาจต้องทนรับความกดดันจากความผันผวนของราคาที่อาจเกิดขึ้น
คำเตือนในการเทรดฟอเร็กซ์
การเทรดฟอเร็กซ์อาจดูน่าสนใจและมีโอกาสในการทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะเริ่มต้นการเทรด หากคุณเป็นมือใหม่ในตลาดฟอเร็กซ์ หรือแม้แต่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แล้ว การเข้าใจถึงความเสี่ยงและการเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
1. ความเสี่ยงในการขาดทุน
แม้ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ที่ดีและทำการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ แต่การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงอาจทำให้คุณขาดทุนได้ ดังนั้นคุณต้องพร้อมที่จะรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและมีวิธีในการจัดการอย่างเป็นระบบ
2. การใช้เลเวอเรจ (Leverage)
การใช้เลเวอเรจสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้นคุณจึงควรเลือกใข้เลเวอเรจในการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยความระมัดระวังและเหมาะสมกับสถานะการณ์การลงทุน
3. การติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากตลาดฟอเร็กซ์เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้คุณอาจพลาดข้อมูลในช่วงเวลาสำคัญได้ในบางครั้ง และส่งอาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ ดังนั้น คุณควรจัดตารางเวลาและอาศัยเครื่องมือ เช่น การแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญ หรือการแจ้งเตือนราคาเข้าช่วย เพื่อให้คุณสามารถปรับตัวตามตลาดได้ทันท่วงที
สรุป
ถึงแม้การเทรดฟอเร็กซ์จะมีความน่าสนใจในแง่โอกาสและผลกำไร แต่การเทรดฟอเร็กซ์ถือเป็นกิจกรรมที่มีความความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีโอกาสที่อัตราการแลกเปลี่ยนจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในทิศทางที่ไม่คาดคิด
ดังนั้น การศึกษาและลองใช้เทคนิคการเทรดฟอเร็กซ์ที่ดี พร้อมเรียนรู้วิธีการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทักษะในการเทรดฟอเร็กซ์ขั้นสูงและการติดตามข่าวสารตลาดอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณสามารถเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คำเตือน
ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปและไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน ทั้งนี้ การลงทุนทุกประเภทมีความ และการเทรดฟอเร็กซ์ก็เป็นหนึ่งในการลงทุนดังกล่าว การเทรดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูงและอาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งหมด ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นการเทรดฟอเร็กซ์ โปรดพิจารณาและศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบ และไม่ควรใช้เงินที่คุณไม่สามารถจะสูญเสียได้