🔎 หุ้นไทยหลุด 1,300 จุด ร่วงดิ่งต่ำสุดในรอบ 5 ปี คือวิกฤตหรือโอกาสสำหรับนักลงทุน ?
หุ้นไทยแต่ละวันทำไมบรรยากาศการลงทุนดูไม่ดีเอาเสียเลย ดูวันร้ายสามวัน นักลงทุนพากันขายหุ้นทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน
แต่ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามวัฏจักรที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งหุ้นไทยเองก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายๆเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็น
✅ วิกฤตหนี้สาธารณะในละตินอเมริกา ยุค 1980s (The International Debt Crisis)
สาเหตุของวิกฤตเกิดขึ้นในช่วง 1960s-1970s เมื่อประเทศในแถบละตินอเมริกา ได้แก่ บราซิล อาร์เจนตินา และเม็กซิโก ได้กู้เงินจำนวนมหาศาลจากเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ หรือธนาคารเอกชน ในที่สุดประเทศเหล่านี้ประกาศว่าไม่มีเงินจ่ายคืนเงินกู้ ซึ่งมีผลให้ปัญหาหนี้ดำเนินจนถึงปี 1989
✅ วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 1997 (วิกฤตหนี้ในเอเชีย)
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2540 โดยในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ประเทศไทยได้เปลี่ยนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนจากการตรึงอัตราแลกเปลี่ยนเป็นการลอยตัวค่าเงินบาท ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้น นอกจากนโยบายการตรึงค่าเงินแล้วยังมีสาเหตุอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์กู้เงินจากต่างประเทศเพื่อปล่อยกู้ในประเทศ เกณฑ์ปล่อยกู้ที่ไม่เข้มงวดมากพอ ทำให้เกิดการเก็งกำไรกันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งหมุนเงินที่กู้ให้เจ้าหนี้ไม่ทัน ทำให้เกิดการเลิกกิจการ คนตกงานเป็นจำนวนมาก กระทบไปถึงดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2537 จนถึงปี 2541 ได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรงเกือบ 90%
✅ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ / ซับไพรม์ ปี 2008 (The Great Recession)
วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์หรือวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2551 มีสาเหตุจากการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ โดยนโยบายของธนาคารในขณะนั้น ให้ผู้กู้สามารถนำหลักทรัพย์ด้อยคุณภาพมาค้ำประกันแลกกับสินเชื่อได้ จึงทำให้ประชาชนที่ยังไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ก็สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนผู้กู้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำมากจนเกินไป ต่อมา เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มีมติปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้มีการผิดนัดชำระหนี้ และเกิดการยึดทรัพย์ทั่วประเทศสหรัฐฯในเวลาต่อมา ซึ่งตลาดหุ้นไทยในขณะนั้นก็มีการปรับฐานที่รุนแรงจากปี 2550 เช่นเดียวกัน แต่ก็ยังไม่รุนแรงเท่ากับวิกฤตต้มยำกุ้ง โดยปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2550 จนถึงเดือนเดียวกันในปีถัดมา ซึ่งลดลงเกือบ 60%
✅ วิกฤตโรคระบาดโควิด ปี 2020 (COVID-19)
มีสาเหตุมาจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 2019 โดยพบครั้งแรกในนครอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบาดนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ จนทำให้เศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ต้องหยุดชะงักเพราะจำเป็นต้องล็อกดาวน์ประเทศ
แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เราลงทุนทั้งในเชิงลบหรือบวก แต่อย่างไรก็ตาม วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ที่คาดเดาได้ยากเหล่านี้ คือ การฝึกวินัยในการลงทุน เข้าใจธรรมชาติของตลาดหุ้นที่ไม่ได้มีเพียงแค่เทรนด์ขาลงเพียงอย่างเดียว และสามารถรับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างเหมาะสม
ตลาดหุ้นไทยยังดำรงคงอยู่มาได้จนถึงปัจจุบันนี้ แม้จะมีวิกฤตทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ราคาหุ้นทุกประเภท รวมถึงทั้งหุ้นเติบโต (Growth Stock) และหุ้นคุณค่า (Value Stock) ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว สร้างโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นดีในราคาที่น่าสนใจ เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย หุ้นเติบโตที่ยังมีศักยภาพสูงก็มักจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่หุ้นคุณค่าก็จะให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ทำให้ช่วงวิกฤตนับเป็นโอกาสทองในการลงทุนทั้งสองประเภทนี้
ระยะเวลาของสภาวะวิกฤตในตลาดหุ้นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงและความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าจะฟื้นกลับมาได้เร็วเพียงใด ในบางกรณีวิกฤตตลาดหุ้นอาจเกิดขึ้นเพียงสั้น ๆ โดยกินเวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่บางกรณีอาจกินเวลาไปเป็นหลายเดือนหรือหลายปี
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของสถานการณ์และความยากในการเลือกหุ้นที่ดีทำให้การลงทุนในช่วงวิกฤตมีความเสี่ยงสูง การตัดสินใจที่เกิดจากความกลัวหรือความโลภ อาจยิ่งซ้ำเติมความเสี่ยงนี้ให้มากขึ้น
เมื่อตลาดหุ้นตก หุ้นต่าง ๆ อาจประสบกับการสูญเสียราคา นักลงทุนที่ตื่นตระหนกและเทขายหุ้นที่ตัวเองถือครองในระหว่างที่เกิดสภาวะวิกฤตในตลาดหุ้นอาจทำให้ยากต่อการกู้คืนในตอนที่ตลาดกลับมามีเสถียรภาพ
ควรทำอย่างไรเมื่อเกิดสภาวะวิกฤตในตลาดหุ้น
▶️ สงบสติอารมณ์
แม้ว่าสภาวะวิกฤตตลาดหุ้นอาจทำให้ตกใจได้แต่สิ่งสำคัญคือต้องสงบสติอารมณ์ และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจอย่างเร่งรีบและใช้อารมณ์
▶️ อย่าเพิ่งขายสิ่งที่ลงทุนไป
การขายสิ่งที่ลงทุนไปในช่วงสภาวะวิกฤตตลาดหุ้นสามารถเปลี่ยนการสูญเสียในกระดาษให้กลายเป็นการสูญเสียจริง ๆ ได้ ดังนั้น ให้มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การลงทุนระยะยาวแทน
▶️ ช้อนซื้อในช่วงที่ตลาดร่วง
สำหรับผู้ที่มีเงินพร้อมลงทุน วิกฤตของตลาดอาจเป็นโอกาสในการซื้อสินทรัพย์คุณภาพสูงในราคาที่ลดลง แถมยังมีโอกาสในการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาจากการซื้อขายหุ้นเหล่านั้นอีกด้วย
▶️ ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ
ขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ได้
▶️ กระจายความเสี่ยง
การกระจายการลงทุนของคุณในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดตกต่ำได้
สภาวะวิกฤตตลาดหุ้นอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจและนักลงทุนรายย่อย แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ประวัติศาสตร์ก็ได้แสดงให้เห็นว่าในที่สุดตลาดกก็ฟื้นตัวขึ้นมาได้ตามกาลเวลา โดยการทำความเข้าใจธรรมชาติของสภาวะวิกฤตตลาดหุ้น สงบสติอารมณ์ และทำการตัดสินใจอย่างรอบคอบ จะทำให้นักลงทุนสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้ได้และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความมั่นคงทางการเงินและความสำเร็จในระยะยาว
#Stock2morrow #สื่อและสังคมของนักลงทุน #หุ้นไทย #ตลาดหุ้นไทย