#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน
#แนวคิดด้านการลงทุน

“ส่งออกข้าวไทย” ทำไมถึงแพ้อินเดียและเวียดนาม ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,790 views

“ส่งออกข้าวไทย” ทำไมถึงแพ้อินเดียและเวียดนาม ?

ใคร ๆ ก็ต้องเคยกินข้าวหอมมะลิหรือข้าวหอมไทยกันมาทั้งนั้น นั่นก็เพราะเราเกิดในแผ่นดินที่เรียกได้ว่า “ข้าว” เป็นสินค้าสำคัญสำหรับการส่งออกของไทยและเคยเป็นอันดับหนึ่งของโลกมาแล้ว

แต่ในระยะหลังจากปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การส่งออกข้าวไทยชะงักแบบที่ไม่ควรจะเป็นและทำให้ตลาดการส่งออกข้าวไทยร่วงลงอย่างต่อเนื่องหลายปี แม้ว่าปัจจุบันจะมีการฟื้นตัวขึ้นมาแล้วแต่ก็ยังไม่เทียบเท่าเวียดนามและอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

วันนี้ Stock2morrow จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งออกข้าวไทย รวมถึงเหตุผลว่าทำไมเราถึงสู้ประเทศคู่ค้าอย่างอินเดียและเวียดนามไม่ได้สักที

[ส่งออกข้าวไทยกำลังเติบโต ?]

มาดูตัวเลขส่งออกข้าวไทยย้อนหลัง 5 ปี ล่าสุดของประเทศไทยกัน

ปี 2562 ส่งออก 7.58 ล้านตัน มูลค่า 1.32 แสนล้านบาท

ปี 2563 ส่งออก 5.73 ล้านตัน มูลค่า 1.16 แสนล้านบาท

ปี 2564 ส่งออก 6.12 ล้านตัน มูลค่า 1.08 แสนล้านบาท

ปี 2565 ส่งออก 7.69 ล้านตัน มูลค่า 1.38 แสนล้านบาท

ปี 2566 ส่งออก 8.70 ล้านตัน มูลค่า 1.76 แสนล้านบาท

จะเห็นได้ว่าประเทศไทยกำลังส่งออกข้าวไทยไปยังต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2566 เรียกได้ว่าเป็นปีทองของการส่งออกข้าวไทยเลยก็ว่าได้เนื่องจากอินเดียได้ระงับการส่งออกข้าวขาวจากในประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566

อย่างไรก็ตามล่าสุดอินเดียกำลังหวนคืนกลับสู่ตลาดส่งออกข้าวอีกครั้งโดยจะขายกดราคาที่ราคา 490 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาข้าวไทยที่ขายอยู่ราว 520 ดอลลาร์ต่อดันเป็นอย่างมาก

ทำให้หลายฝ่ายหวังว่าปี 2567 ข้าวไทยจะส่งออกได้สูงกว่าปี 2566 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มาที่จะเติบโตราวเกือบ 1 ตันในแต่ละปี

[ทำไมข้าวไทยแพ้ต่างประเทศ ?]

ต้องยอมรับว่าปัจจัยที่ทำให้ข้าวไทยยังไม่ Mass ในต่างประเทศมีอยู่อย่างมากมาย หลัก ๆ ลยเป็นเพราะว่าผู้ซื้อหลักได้ทำการซื้อน้อยลงเนื่องจากเวียดนามและอินเดียกลับเข้ามาตีตลาดส่งออกข้าวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งกดดันราคาข้าวให้ลดลงราว 50 ดอลลาร์ต่อตันทันที

แม้ว่าข้าวไทยจะขายได้จำนวนมาก แต่ด้วยราคาที่ร่วงลงเกือบ -10% ในทันทีนี้ ทำให้แม้จะขายได้ในปริมาณมากแต่มูลค่าการส่งออกก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่ควรเป็น

90% ของข้าวไทยยังคงปลูกแบบนาปีหรือตามฤดูกาลและใช้น้ำจากแหล่งธรรมชาติ ซึ่งจะมีเพียง 10% เท่านั้นที่ปลูกข้าวนอกฤดู ส่งผลให้หากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ทำให้ข้าวไทยเกิดความเสียหายอย่างมหาศาลน้อยลง ส่งผลให้การเติบโตภาคการเกษตรด้านข้าวไทยไม่ได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างที่ควรเป็น 

อีกทั้งอินเดียและเวียดนามต่างกำลังพัฒนาพันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกได้ในต้นทุนที่ถูกและมีความอร่อยสูง จนทำให้เรายังไม่สามารถผลิตข้าวแบบ Mass และเข้าต่อสู้ด้านราคาและปริมาณกับต่างประเทศได้

ปัจจุบันข้าวไทยราคา 100 บาทยังมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 25% ในขณะที่เวียดนามสามารถคงอยู่ที่ระดับ 15-18% ได้ ซึ่งถ้าประเทศไทยยังไม่สามารถเพิ่ม Margin ในส่วนนี้ได้ ก็อาจทำให้ประเทศไทยแพ้ต่างชาติไปแบบยาว ๆ ก็เป็นได้

ทำให้เราต้องมาติดตามกันต่อไปว่าในปี 2568 ข้าวไทยจะเดินหน้าแก้เกิมข้าวเวียดนามและอินเดียอย่างไร ซึ่งถ้าข้าวไทยยังสามารถกลับมา Mass เป็นอันดับที่ 1 ของโลกได้ ก็อาจเห็นภาคการเกษตรกลับมาคึกคักอีกครั้งก็เป็นได้

#Stock2morrow #สื่อและสังคมของนักลงทุน #ธุรกิจ #การลงทุน #ข้าวไทย #ประเทศไทย


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง