KCG เปิดตัว "KCG Logistics Park" ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าตามกลยุทธ์ "From Great to Growth" บริหารห่วงโซ่อุปทานจากต้นน้ำยันปลายน้ำ สู่เป้าหมายการเติบโต 1 หมื่นล้านบาท
บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย เผยกลยุทธ์ "From Great to Gowth" บริหารห่วงโซ่อุปทานด้วยนวัตกรรมรักษาสินค้าคุณภาพสู่มือลูกค้าเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการทุ่มงบประมาณก่อสร้าง "KCG Logistics Park" " ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่กว่า 350 ล้านบาทที่พร้อมเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการเติบโต 10,000 ล้านบาท พร้อมชูกลยุทธ์ "From Great to Growth" ทั้งความเป็นเลิศด้านคุณภาพ เทคโนโลยีเพื่อการเติบโต และการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยังยืน
[ผลประกอบการ Q2/2024 ของ KCG]
คุณดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
"จากผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มียอดขายรวม 1,688.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% และมีกำไรสุทธิ 94.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรวมแล้ว สามารถทำรายได้เติบโตในเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 1,022.6 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.6% ถือเป็นยอดขายอันดับ 1 ในตลาดดังกล่าว ส่วนตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับประกอบอาหารและเบเกอรี่และอื่นๆ รวมทั้งตลาดผลิตภัณฑ์บิสกิต สามารถทำยอดขายสูงสุดติด 5 อันดับแรก ได้ทั้งสิ้น ซึ่งแม้ว่าไตรมาส 2 ของปีนี้จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน ประกอบกับความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกและการค้าโลกที่อาจจะชะลอตัว แต่ KCG สามารถทำรายได้เติบโตสวนกระแส”
ภาพรวมผลประกอบการ 2566
ยอดขายรวม 7,157.0 ล้านบาท เติบโต 16.2% มีกำไรสุทธิ 305.9 ล้านบาท เติบโต 26.9%
ทั้งกำไรสุทธิและรายได้จากการขายถือว่าเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 65 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งธุรกิจ 2501
- ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 4,086.5 ล้านบาท เติบโต 15.0%
- ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่และอื่นๆ (FBI) มีรายได้ 2,061.1 ล้านบาท เติบโต 15.3%
- ผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) มีรายได้ 1,009.3 ล้านบาท เติบโต 23.9%
ผลประกอบจำแนกตามช่องทางการจำหน่ายปี 2566
- ผู้ประกอบการ (B2B) มียอดขาย 2,892.7 ล้านบาท เติบโต 14.2%
- ผู้บริโภคทั่วไป (B2C) มีรายได้ 3,938.6 ล้านบาท เติบโต 17.7%
- สินค้าส่งออก (Export) มียอดขาย 325.7 ล้านบาท เติบโต 18.1%
[3 เทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารห่วงโซ่อุปทานยุคใหม่]
คุณดำรงชัย กล่าวว่า KCG เล็งเห็น 3 เทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารห่วงโซ่อุปทานยุคใหม่ ซึ่ง KCG ได้นำเทรนด์ดังกล่าวมาต่อยอดในการสร้างกลยุทธ์การบริหารห่วงโซ่อุปทาน ผ่านการสร้างศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park แห่งนี้ โดย 3 เทรนด์ดังกล่าวประกอบด้วย
1. ผู้บริโภคมีความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (360 Degrees Product Trend) มีความพิถีพิถันกันในการพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน โดยบริษัทฯ จะต้องมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์จะถูกเก็บรักษา และส่งมอบด้วยมาตรฐานคุณภาพที่ดีที่สุด
2. การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) บริษัทฯ ต้องให้ความสำคัญกับแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ใน 3 ปัจจัยหลักได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance, ESG) ในทุกกระบวนการของห่วงโซ่อุปทาน
3. การนำเทคโนโลยีมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Digitalization & Automation) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหาร เกิดความแม่นยำ รวดเร็วในการบริหารระบบความท้าทาย ทั้งนี้องค์กรยังคงมองหา และพิจารณาการลงทุนเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันและลดต้นทุนในระยะยาว
[ชูกลยุทธ์ “From Great to Growth" ผ่านการสร้าง KCG Logistics Park]
KCG เชื่อว่าการบริหารห่วงโซ่อุปทานและคลังสินค้า หรือ Supply Chain & Inventory Management
เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจ โดยเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของบริษัทฯ (7 Business Pillars) ห่วงโซ่อุปทานจึงเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมก่อนไปถึงมือผู้บริโภคและสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยังยืนได้
ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าเป็นสิ่งสำคัญระหว่างการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพของ KCG กับการจัดส่งสินค้าที่ KCG มีทั้งหมดกว่า 50 แบรนด์ ให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วปลอดภัยและรักษาคุณภาพรองสินค้าไว้อย่างดี เราจึงทุ่มงบลงทุน 350 ล้านบาท ในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากลเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจพร้อมทั้งตอบโจทย์เรื่องการสร้างความยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "From Great to Growth"
กลยุทธ์ From Great to Growth เป็นการนำเทรนด์ของการบริหารห่วงโซ่อุปทานมาผนวกกับความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ 66 ปีที่เรามี KCG มีความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคที่เป็นตัวต้นน้ำอยู่แล้ว
ดังนั้นการเก็บรักษาและส่งสินค้าไปให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วปลอดภัยที่เป็นปลายน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ ทำให้ KCG สามารถรักษาคุณภาพได้ตั้งแต่ดันน้ำอันปลายน้ำได้อย่างครบวงจร โดยใช้ KCG Logistics Park เป็นศูนย์กระจายสินค้า และคลังสินค้าแห่งความยั่งยืนและนวัตกรรม เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตให้องค์กร
[เป้าหมายของ KCG Logistics Park]
กลยุทธ์ From Great to Growth ที่ใช้ในการบริหารห่วงโซ่อุปทานและคลังสินค้า ผ่าน KCG Logistics Park จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจแบบก้าวกระโดดสู่รายได้ 10,000 ล้านบาท ใน 35 ปีข้างหน้า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยลดค่าเช่าคลังสินค้าภายนอกได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ในมุมของธุรกิจ KCG Logics Park ยังมีความมุ่งมันในการเป็นตัวกลางในการขนส่งสินค้า KCG แก่ผู้ประกอบการรายย่อย และช่วยตอบสนองโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กลยุทธ์ From Great to Growth ประกอบไปด้วย 3 กลยุทธ์ย่อย ได้แก่
1. สร้างการเติบโตจากความเป็นเลิศด้านคุณภาพ (Quality Excellence for Growth)
2. สร้างการเติบโตจากเทคโนโลยี (Tech for Growth)
3. สร้างการเติบโตจากการรักษาสิ่งแวดล้อม (Green for Growth)
#Stock2morrow #สื่อและสังคมของนักลงทุน #KCG