เวลาเราอยู่ในตลาดหมี Bear Market สิ่งที่เราจะเจอบ่อยเลย คือ  

Overreact คือ ตอบสนองต่อข่าวไวเกินไป บางทีข่าวยังไม่ชัดเจน ราคาหุ้นไปก่อนแล้วเพราะกลัวจะเลิกกันเร็ว รีบเล่น รีบเข้า รีบเลิก "เปิดก่อนได้เปรียบ"

Overshoot คือ เน้นซื้อๆขายๆ ช่องสองช่องก็ออกแล้ว ก็พอเข้าใจได้ เพราะหุ้นเล่นไม่กี่วันก็เลิก (หรืออาจจะไม่กี่ชั่วโมง) จะถือรันเทรนด์นานๆก็ไม่ได้

High volatility คือ ผันผวนหนัก

หุ้นหลายๆตัวขนาดใหญ่ขึ้นลง 4-5% เป็นเรื่องปกติ เช่นหุ้นใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อ SET100 , SET50 เป็นการประคอง Index โดยใช้กลุ่ม Big cap ไม่กี่ตัว

แต่สุดท้าย ก็ต้องหาทางปล่อยลงมาอยู่ดี เพราะในสภาวะตลาดที่ไม่ดี ใครๆก็อยากถือเงินสดรอโอกาสกันทั้งนั้น

ตลาดหมีหุ้นไทยรอบนี้ยาวนานกว่าปกติ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นช่วงโควิด พอจบเศรษฐกิจไทยก็นิ่ง ไม่มีอะไรใหม่ๆมากระตุ้นเศรษฐกิจ หรืออยากให้คนออกมาใช้จ่าย

ประกอบกับช่วงนี้การลงทุนต่างประเทศง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพอร์ตไปซื้อหุ้นเอง หรือลงทุนผ่าน DR ก็ทำได้ง่ายขึ้นมาก นักลงทุนไทยมองเห็นโอกาสก็ไปลงทุนต่างประเทศกัน

คำถาม คือ หุ้นไทยยังมีอนาคตอยู่ไหม เราจะปรับตัวและมองหาโอกาสอย่างไร ? 

ถ้าเราลองไปดูตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกา พวกเขามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ผ่านการลงแรงๆมาก็เยอะ (และอาจจะหนักกว่าของไทยที่เป็นอยู่ด้วย) แล้วพวกเขาที่เป็นนักลงทุนเก่งๆประสบความสำเร็จ พวกเขาอยู่กันอย่างไร 

1. ไปตกปลา (go fishing)
หมายถึงให้ไปพักผ่อน เว้นจากตลาดหุ้นบ้าง เพราะตลาดหุ้นเปิดทุกวัน ไม่ได้หนีเราไปไหน 
ถ้าเรามองว่าตลาดไม่ดี เราก็ไปพักผ่อน ติดตามภาวะตลาดอยู่ห่างๆ

2. ทำการบ้าน
การไปพักผ่อน ไม่ได้หมายความว่า "เลิกสนใจ"
แต่นักลงทุนที่เก่งๆ เขาใช้วิธีตามหุ้นอยู่ห่างๆ คืออ่านรายงานประจำปี 
อ่านบทวิเคราะห์ว่ามีมุมมองผลประกอบการอย่างไรในอีก 1-2 ปีข้างหน้า 
(ถึงแม้จะตรงบ้างไม่ตรงบ้าน แต่ก็พอเป็น Guideline ว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร)

3. อดทน อดทน และอดทน ! 

นักลงทุนที่ผ่านตลาดมาอย่างยาวนาน จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดหุ้นมีขึ้น มีลง เพราะ "หุ้นทุกตัวจะมีช่วงเวลาของมัน"

พูดง่ายๆ คือ ไม่มีหุ้นตัวไหนที่จะลงตลอดไป หรือขึ้นได้ตลอดเวลา

ดังนั้น ในภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่ดี สักวันหนึ่งมันก็จะมีช่วงเวลาที่กลับมาดีได้

ประเด็นคือ ถ้าตลาดกลับมาได้ เราในฐานะนักลงทุนจะเตรียมพร้อมแค่ไหน

ถ้าเราเป็นนักลงทุนที่ไม่ได้ทำการบ้าน เราก็ไม่สามารถค้นหาโอกาสจากตลาดหมีในช่วงที่ผ่านมาได้

ถ้าเราเป็นักลงทุนที่ทำการบ้าน เราก็สามารถมองหาโอกาสจากตลาดตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา

สิ่งสำคัญ คือ ต้องอดทน รู้จักรอคอย และทำการบ้านมุ่งเป้าไปยังหุ้นที่เราสนใจ ติดตามตลาดอยู่ตลอด