“หลังสวน” ถือว่าเป็น Super Prime Area ที่ได้รับการขนานนามว่า "หัวใจของกรุงเทพฯ" เป็นทำเลไข่แดงที่แพงที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และนับวันมูลค่ายิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยราคาประเมินของกรมธนารักษ์ล่าสุดอยู่ที่ 1 ล้านบาท/ตารางวา แต่มูลค่าการซื้อขายจริงในตลาดสูงไปถึง 3.9 ล้านบาท/ตารางวา แล้ว ด้วยเพราะโลเคชั่นที่หาที่อื่นมาทดแทนยาก และมีจุดเด่นหลายส่วน อาทิ
- เป็นย่าน CBD ศูนย์กลางความเจริญภาคธุรกิจ ที่ตั้งของสำนักงานจำนวนมาก และเป็นที่ตั้งของสถานทูตกว่า 24 แห่ง
- จัดว่าเป็น “ที่สุดของความลักชู” เพราะรวมแหล่งช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ระดับ Super Luxury ไว้มากมาย ทั้งห้างฯ ดัง ร้านอาหาร โรงแรม สปา wellness
- เป็นทำเลทองใจกลางเมืองที่เดินทางง่าย การคมนาคมสะดวก เพราะติด BTS ใกล้ MRT ทั้งยังไม่ไกลทางด่วน
- ท่ามกลางความเจริญก็ยังมีพื้นที่สีเขียวติดสวนขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” อย่างสวนลุมฯ
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าราคา คือความ “หายาก” เนื่องจากบริเวณนี้แทบไม่เหลือที่ดินเปล่าให้พัฒนาโครงการได้แล้ว ดังนั้นพื้นที่เกือบทั้งหมดจึงถูกพัฒนาเป็นโครงการระดับ Flagship และ Super Luxury เท่านั้น และส่วนใหญ่จะเป็นอสังหาฯ แบบ Leasehold คือ ให้เช่าระยะยาว (ไม่เกิน30 ปี) จึงมีจำนวนโครงการน้อยมากในย่านนี้ที่จะขายแบบ Freehold คือให้สามารถถือครองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์

โอกาสในการลงทุน
ถึงแม้ราคาและความ rare ของย่านหลังสวนนี้จะอยู่ในระดับสูงไปมากแล้ว แต่ upside ในการลงทุนก็ยังคงสูงอยู่เช่นกัน โอกาสเติบโตก็ยังมีอีกมาก เนื่องด้วยปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นย่านยอดนิยมตลอดกาลของ “หลังสวน” เป็นทำเลที่หลายคนฝันอยากครอบครอง ไม่ใช่แค่คนไทย แต่เป็นที่ต้องการของคนจากทั่วโลก
อีกทั้งยังเป็นย่านของอสังหาฯ เพื่อการลงทุนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการปล่อยเช่า อย่างที่บอกไปแล้วว่า ย่านนี้เต็มไปด้วยออฟฟิศ และสถานทูต จึงมีชาวต่างชาติที่มีฐานะดีจำนวนมากที่มาทำงานและต้องการที่พักระยะยาว ดังนั้น ผู้เช่าหาง่าย ได้ราคาดี แต่ปัญหาคือไม่ค่อยมีห้องว่าง ซึ่งเรตค่าเช่าคอนโด freehold แบบ Luxury ในย่านชิดลม-หลังสวน-วิทยุ ที่ปล่อยกันทุกวันนี้ อย่าง 1 Bedroom ขนาดเริ่มที่ 57ตร.ม. ค่าเช่าก็อยู่ที่ประมาณ 1,200 – 2,000 บาท/ตร.ม.
นอกจากนี้ “หลังสวน” ยังเป็นพื้นที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ห้างฯ ดังหลายแห่งเตรียม renovate ทั้ง Luxury brand Flagship store เตรียมเปิดตัวหลายแบรนด์ เช่น Louis Vuitton ขณะเดียวกันก็มีเมกะโปรเจกต์ Mixed-use ระดับแสนล้าน รอเปิดตัวอีกหลายโครงการ เช่น ONE Bangkok , Dusit Central Park ,Sindhorn Village
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาซื้อขายอสังหาฯ ในย่าน “หลังสวน” สูงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ว่า คอนโดแบบ Freehold ในย่านชิดลม-หลังสวน-วิทยุ จะเพิ่มสูงถึง 600,000 บาทต่อตารางเมตร (ขอบคุณข้อมูลจาก Terra Research)
นี่จึงเป็นทำเลที่เหมาะทั้งลงทุนแบบปล่อยเช่า หรือซื้อเก็บเอา Capital Gain
“หลังสวน” ทำเลที่น่าลงทุนในคอนโด
อย่างที่เล่าให้ฟังมาทั้งหมด จะเห็นว่าเมื่อหลังสวนเป็นทำเลทองคำที่ยังทำกำไรได้ดี ดังนั้นการจะหาซื้ออสังหาฯ อย่างคอนโดมิเนียม ทั้งเพื่อลงทุนและอยู่อาศัยเองจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถ้ามีโครงการเปิดขายเมื่อไรก็มักจะถูกจับจองในเวลาอันรวดเร็วมาก
และอีกอย่างคือโครงการที่เปิดตัวเกือบทั้งหมดจะอยู่ในรูปแบบ Leasehold คือ ให้เช่าระยะยาว โดยราคาขายปัจจุบันของโครงการ Leasehold ระดับ Luxury อย่าง Dusit Residence , One Bangkok Residence อยู่ที่ 350,000 – 450,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งปกติราคา Leasehold ก็จะถูกกว่าแบบFreehold
ดังนั้นเมื่อมีโครงการคุณภาพในรูปแบบ Freehold เปิดขายในราคาที่ดีกว่าโครงการแบบ Leasehold เกิดขึ้นมา จึงเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างมากที่เราจะลองเข้าไปศึกษาข้อมูลต่อ และโครงการที่เราอยากพูดถึงก็คือ “ Muniq Langsuan ”
Muniq Langsuan

ความดึงดูดอันดับแรกที่ชวนให้สนใจคือเป็น Freehold Residence ระดับ Luxury ไม่กี่โครงการ ใจกลางหลังสวน แต่พอลองมองสิ่งน่าสนใจอื่นๆ ต่อไปก็พบว่าดึงดูดไม่แพ้กัน เพราะจุดเด่นของ Muniq Langsuan คือ
- ทำเล
ยกให้เป็นความเย้ายวนอันดับแรกเลยตามข้อมูลที่เล่ามาทั้งหมด - Freehold
ถือเป็นจุดเด่นสำคัญสุดๆ ด้วยรูปแบบการขายแบบ Freehold คือ ขายขาดที่หายากมากในย่านหลังสวน เพราะเราซื้อแล้วได้กรรมสิทธิ์ 100% จะตกแต่ง ดัดแปลง เพิ่มมูลค่าเพื่อปล่อยเช่าให้ได้ราคาดีๆ ยังไงก็ได้ หรือสุดท้ายขายต่อก็กำไรแน่นอน ด้วยศักยภาพของทำเลนี้
- คุณภาพการออกแบบและก่อสร้าง
ด้านการก่อสร้างและดีไซน์ก็โดดเด่น ดูหรูหราแต่ก็ทันสมัยในคราวเดียวกันด้วยสไตล์ Timeless Aesthetic ซึ่งออกแบบโดยทีมผู้พัฒนาจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เจ้าของรางวัล “Best Ultra Luxury Condo Development (Bangkok)”
- มีความส่วนตัวสูง ยูนิตน้อย
เน้นความสงบส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 163 ยูนิต จึงถูกใจกลุ่มลูกค้าระดับบน ผู้มีรสนิยม ที่อยากใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายใจกลางเมือง แต่ก็ยังคงความสงบเงียบ ได้วิวสีเขียวสบายตา
- สะดวก ครบครัน
ส่วนกลางหรูหรา จัดเต็มมาก มีให้เกินที่คาดหวังไว้แน่นอน ลองเข้าไปดูข้อมูลของที่โครงการต่อได้เลย จะเห็นว่าไลฟ์สไตล์ไหนก็มีให้ครบ ทั้งทำงาน สังสรรค์ บันเทิง ครอบครัว สุขภาพ ฯลฯ และด้วยคอนเซ็ปต์ Pet Friendly ใครมีสัตว์เลี้ยง ก็หมดห่วงเลย


สำหรับคนที่สนใจตอนนี้มีโอกาสดีๆ ที่ไม่อยากให้พลาดกัน คือทางโครงการ MUNIQ LANGSUAN จัดราคาพิเศษให้แค่ 2 วันเท่านั้น!
ในวันที่ 6-7 ก.ค.2567
ราคาเพียง 250,000 บาทต่อตารางเมตร
มี 2 ห้องนอนยูนิตพิเศษ เริ่มเพียง 19.9 ล้านบาท
อยากให้รีบติดต่อเข้าไปดูโครงการ และศึกษาเพิ่มดู เพราะอย่างที่บอกว่าโครงการมียูนิตน้อย และด้วยความนิยม กับราคาประมาณนี้ น่าจะต้องแย่งกันหน่อย
สนใจติดต่อได้ที่ https://bit.ly/3KLVkuA
หรือโทร 1266
