นับว่าเป็นครั้งแรกของบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ที่ได้ร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 หลังจากที่ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯไปเมื่อปีที่ผ่านมา
ซึ่งงานนี้ ทาง KCG ได้มีการนำเสนอเรื่องราวของบริษัทตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ได้มีการโชว์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่น่าสนใจ รวมไปถึงมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับกลยุทธ์และแผนงานธุรกิจต่อจากนี้
จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ทีมงานสรุปประเด็นสำคัญมาให้ดูกัน

เทรนด์การบริโภคอาหารสู่วิถีชีวิตสมัยใหม่ (Food Trend for Modern Lifestyle)
หากพูดถึงเทรนด์การบริโภคอาหารที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมของผู้คนกับการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ในปัจจุบันการทำอาหารไม่ใช่แค่ทักษะการเอาชีวิตรอดอีกต่อไป แต่มองไปถึงการตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิต ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 เทรนด์ดังนี้
1. อาหารบอกความเป็นตัวเอง
ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับการทำอาหารในฐานะสุนทรียภาพของชีวิต บ่งบอกความเป็นตัวเองให้โลกรู้ แสดงตัวตนผ่านการประกอบอาหาร ตกแต่งหน้าตาอาหาร ออกไปสู่สายตาคนอื่นๆ ผ่านโลกโซเชียลมีเดีย
2. อาหารสำหรับเติมเต็มสุขภาพกายและสุขภาพใจ
คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันเน้นการมีชีวิตอยู่แบบยืนยาว จึงหันมาใส่ใจสุขภาพ ตั้งแต่อาหาร สภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิต เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพ ทั้งด้านสุขภาพและจิตใจ ไม่ใช่แค่กินเพื่ออิ่มอร่อยเพียงอย่างเดียว
3. อาหารมีไว้ช่วยให้โลกดีขึ้น
ให้ความสำคัญในการทำให้สังคมรอบข้างมีคุณภาพดีขึ้น โดยเฉพาะความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การใช้ Packaging ที่ย่อยสลายได้ การหันกลับมาสนใจวัตถุดิบสดจากธรรมชาติ

กลยุทธ์ “Fusion กินnovation”
สิ่งที่ KCG ทำมาตลอดคือ การนำวัตถุดิบอาหารตะวันตกเข้ามาในประเทศไทย มาจนถึงการเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบอาหารตะวันตกในประเทศไทยสำเร็จ
แต่การ “Fusion” ในรูปแบบของ KCG ไม่เพียงแค่การนำอาหารต่างสไตล์มาประยุกต์รวมกันเท่านั้น แต่หัวใจของการคิดค้นรูปแบบ Fusion เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่คือที่รังสรรค์ ออกมาต่อยอดในหลากหลายมิติ
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ KCG ใช้เป็นอาวุธสำคัญในการเป็นผู้นำด้านอาหารสำหรับโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต โดยมี 5 กลยุทธ์ในการพัฒนา Innovation ที่สำคัญ
1. Scalable ฟิวชั่นกับ Sustainable
จะมีเปิดตัว "KCG Logistics Park" หรือศูนย์กระจายสินค้า และคลังสินค้าที่มีความทันสมัย และครบวงจรที่สุด เพื่อให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น รวมถึงโครงสร้างโรงงานใช้ระบบพลังงานสะอาด อีกทั้งจะปรับระบบการขนส่งสินค้าโดยการนำ (EV Truck) เข้ามาเสริมศักยภาพ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2. Tech ฟิวชั่นกับ Human
ใช้การเติบโตทางเทคโนโลยีมาควบคู่กับการเติบโตของมนุษย์ มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้า แต่ขณะเดียวกัน อาหารเป็นเรื่อง Art & Science ที่ต้องมีมนุษย์เป็นตัวเชื่อม เพราะผู้บริโภคคือมนุษย์ จึงต้องใช้ความเป็นมนุษย์มาช่วยในการทำอาหารเพื่อให้ได้นวัตกรรมใหม่ๆ
3. Localization ฟิวชั่นกับ Modernization
ผสมผสานระหว่างรสชาติท้องถิ่นดั้งเดิมกับความทันสมัย ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นว่าผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับอาหารท้องถิ่นบ้านเกิด และอยากยกระดับอาหารเหล่านั้นให้เป็นที่รู้จัก สิ่งนี้จะส่งผลไปถึง Brand Authenticity ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้ยั่งยืน และยังเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดอีกด้วย
4. Tasty ฟิวชั่นกับ Healthy
การรับประทานอาหารความอร่อยมักเป็นขั้วตรงข้ามกับสุขภาพที่ดี แต่ด้วยเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนย-ชีสที่หลายคนมักมองภาพความ Healthy ไม่ชัดเท่าไรนัก ทำให้แบรนด์ KCG เฟ้นหานวัตกรรมที่จะตอบโจทย์ในแง่ของรสชาติที่อร่อยและมาควบคู่กับการรักษาสุขภาพ
5. Convenience ฟิวชั่นกับ Aestheticity
ปกติแล้วความง่าย ความสะดวก มักจะสวนทางกับความละเอียดพิถีพิถัน แต่ปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการทั้งความง่าย แต่ให้ความง่ายมาช่วยให้เขาสามารถได้อาหารที่มีความพิถีพิถันได้ด้วย KCG จึงได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เพิ่มความง่ายและความสะดวกในการรับประทานผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกลุ่มชีสและเนย ทำให้สามารถรับประทานได้ทุกช่วงเวลา ยังคงความละเอียดพิถีพิถันในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น

เติบโต-มั่นคง-ยั่งยืน พร้อมทุกสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง
ในฐานะผู้นำของ KCG คุณดำรงชัย วิภาวัฒนกุล พูดถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาให้องค์กรตอบโจทย์โมเดิร์นไลฟ์สไตล์ในอนาคตว่า
เราวางแผนงานสานต่อความสำเร็จ ด้วยวิสัยทัศน์ 'Transition Towards Sustainable Growth' สร้างองค์กรสู่การเติบโต ที่มั่นคง ยั่งยืน พร้อมสู่อนาคตที่กำลังเปลี่ยนแปลง
โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา 2 มิติ ได้แก่ ยุทธศาตร์ทางธุรกิจ (Business Strategy) ภายใต้การขับเคลื่อน 7 เสาหลักได้แก่
1.) มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจ (Growth)
2.) การพัฒนาบุคลากร (People)
3.) การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี (Innovation Data & Tech)
4.) การขยายตลาดส่งออก (Export)
5.) ยกระดับศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าที่ทันสมัยและครบวงจร (Supply Chain & Inventory),
6.) ยกระดับการผลิตโดยใช้ระบบอัตโนมัติ (Production& Automation)
7.) การส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Sustainable Development)
ควบคู่ไปกับ ยุทธศาสตร์ด้านวัฒนธรรมองค์กร (Cultural Strategy) เป็นตัวขับเคลื่อน โดยยึดหลัก “Heart – Driven – Expertise – Agile – Responsible – Teamwork” ด้วยความเชื่อมั่นว่าพนักงานเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะร่วมขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุสู่เป้าหมายสูงสุดนั่นเอง
นับว่าเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ KCG ในการเป็นผู้สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ให้กับรสชาติอาหาร ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่างมีคุณภาพ และพร้อมมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ในทุกกลุ่มสินค้า เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน