ต้องยอมรับว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทรงตัวอยู่ในระดับสูง
และมีโมเม้นตัมการวิ่งขึ้นที่แข็งแกร่ง
- ราคาน้ำมันดิบ Brent อยู่ในกรอบ 82-84 เหรียญต่อบาร์เรล 
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ในกรอบ 77-79 เหรียญต่อบาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบ ดูไบ อยู่ในกรอบ 83-85 เหรียญต่อบาร์เรล
โดยตั้งแต่ต้นปีมานี้ วิ่งขึ้นมาแล้วเกือบ +10% โดยเฉลี่ย

คำถาม คือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมาก มาจากอะไร ? 
คำตอบสั้นๆที่พอจะอธิบายได้ คือ ความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และการที่กลุ่ม OPEC+ ยืนยันจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน

คำถามต่อมาคือแล้วตลาดน้ำมันจะทรงตัวระดับสูงอีกต่อไปไหม
คำตอบ คือ มีแนวโน้มจะยืนอยู่ในระดับสูงต่อไป ...
จากสาเหตุสำคัญ 3 ข้อด้วยกัน คือ
1. ความต้องการใช้น้ำมันยังสูง 
เมื่อไม่นานมานี้ Morgan Stanley วิเคราะห์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล จากปี 2566

2. Supply ของน้ำมันที่ลดต่ำลง
ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่ม OPEC+ ประกาศ จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคาดหวังว่า กลุ่ม OPEC+ อาจจะมีการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงได้บ้างในช่วงปลายไตรมาส 3

3. ECB มีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ย
เมื่อไม่นานมานี้ ECB หรือ European Central Bank มีการแสดงความคิดเห็นว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ซึ่งจะเป็นบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันให้ขยับตัวสูงขึ้น
ทำให้ภาพรวมของราคาน้ำมันดิบยังมีโมเม้นตัมที่แข็งแกร่ง

นี้คือ 3 เหตุผลที่ทำให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะแพงอยู่ต่อไป
เราในฐานะผู้บริโภค อาจจะต้องทนใช้น้ำมันแพงกันต่อไปอีกสักระยะ ครับ ...