ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง..
นาย ก: อาทิตย์หน้ามีหุ้น A กับ หุ้น B เข้า IPO สนป่าวเพื่อน?
นาย ข: หูยยย.... เล็งอยู่ ขอโพยหน่อยเข้าตัวไหนดี เอาแบบฟันธงมาเลยยยยย ขึ้เกียจอ่านรายละเอียด
นาย ก: จัดเต็ม หุ้น A เลย ชัวร์!
นาย ข: ทำไมอ่ะ ขอคำอธิบายแบบสั้นๆเน้นๆนะ ไม่ชอบยาวๆเยิ่นเย้อ
นาย ก: ง่ายนิดเดียว หุ้น A พาร์ 1 บาท ขาย IPO 1.3 บาทเอง ..... ส่วนไอ้หุ้น B เจ้าของโคตรเคี่ยว ราคาพาร์ต้นทุนของมันแค่ 1 บาทเหมือนกัน แต่ขาย IPO ตั้ง 26 บาท ตั้งราคาแพงโคตรกะขายหุ้นทิ้งไปเลยอ่ะดิ ใครซื้อก็โง่แล้ว!
นาย ข: เออจิง... งั้นจัดไป หุ้น A เต็มปอด!
…
…
…
ใครเคยเจอคนแนะนำแบบนี้บ้างครับ ยกมือขึ้น
ถ้ามีคนแนะนำคุณให้ดูราคาพาร์ แล้วตัดสินว่าหุ้นนั้นถูกหรือแพง บอกได้เลยครับว่า #ผิด
จริงๆแล้ว ราคาพาร์แทบไม่มีความหมายอะไรเลยด้วยซ้ำ!
เพราะอะไร? มาดูตัวอย่างง่ายๆกันครับ (ตัวเลขเยอะหน่อย แต่อ่านแล้วคุ้ม รับรอง):
บริษัท A
บริษัท A เปิดมาแล้ว 10 ปี จดทะเบียนบริษัทที่พาร์ 1 บาท ทุนจดทะเบียนชำระเต็ม 10 ล้านบาท มี 10 ล้านหุ้น
ทำธุรกิจสิ่งทอธรรมดาๆที่ไม่ค่อยจะโตเท่าไร มาร์จินกำไร (NPM) ตกปีละ 10% และกำไรเฉลี่ยโตแค่ปีละ 3%
เนื่องจากธุรกิจก็งั้นๆ ออร์เดอร์ก็เรื่อยๆ เจ้าของก็ไม่ต้องลงทุนเปิดโรงงานเพิ่มอะไร เงินกำไรเหลือไม่รู้จะเก็บไปทำอะไร เลยจ่ายปันผลออกมาเยอะถึง 80% ของกำไร
ดังนั้น Book Value ของบริษัท A ณ วันนี้จึงอยู่ที่ประมาณ 1.23 บาท/หุ้น
เนื่องจากกลุ่มธุรกิจสิ่งทอที่เทรดกันในตลาดไม่ได้มีค่า P/E สูง (ประมาณ 10x) ทาง FA/Underwriter ประเมินมูลค่าและให้ P/E 10 เท่าเหมือนๆกัน
หุ้น A จึงตั้งราคา IPO ที่ 1.3 บาท คิดเป็น P/E 10 เท่า และ P/BV ที่ 1.06 เท่า และไม่มี Discount ให้นักลงทุนเลย
บริษัท B
บริษัท B เปิดมาแล้ว 10 ปีเหมือนกัน จดทะเบียนบริษัทที่พาร์ 1 บาท ทุนจดทะเบียนชำระเต็ม 10 ล้านบาท มี 10 ล้านหุ้น (เหมือนบริษัท A เป๊ะ) แต่เถ้าแก่บริษัท B ทำธุรกิจผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่เกาะกระแสธุรกิจโรงพยาบาล มาร์จินกำไร (NPM) ดี ปีละ 20% และกำไรเฉลี่ยโตวันโตคืนปีละ 25%
เนื่องจากธุรกิจดี ออร์เดอร์จากโรงพยาบาลมาเพียบ โรงงานที่มีอยู่เดินเครื่องจักรผลิตกันทั้งวันทั้งคืนก็ไม่พอ เถ้าแก่จึงต้องลงทุนเปิดโรงงานใหม่อยู่เรื่อยๆ แกเลยไม่จ่ายปันผลเลยและเก็บกำไรมาลงทุนต่อ
ดังนั้น Book Value ของบริษัท B ณ วันนี้ จึงอยู่ที่ประมาณ 7.65 บาท/หุ้น
เนื่องจากกลุ่มธุรกิจผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์มีค่า P/E ตลาดสูง (ประมาณ 25x) เพราะตลาดมองเห็นอนาคตอีกไกล ทาง FA/Underwriter ประเมินมูลค่าและให้ P/E 25 เท่าเหมือนๆกัน
หุ้น B จึงตั้งราคา IPO คร่าวๆ ที่ 37 บาท คิดเป็น P/E 25 เท่า และ P/BV ที่ 4.86 เท่า แต่ด้วยความที่เถ้าแก่อยากระดมทุนเยอะหน่อยเพราะต้องเปิดอีกหลายโรงงาน จึงให้ Discount อีก 30% เบ็ตเสร็จจึงเคาะราคา IPO มาที่ 26 บาท คิดเป็นแค่ P/E 17.5 เท่า และ P/BV ที่ 3.4 เท่า
เป็นคุณจะเลือกบริษัทไหนครับ?
หุ้น B มีข้อดีกว่าเกือบทุกประการ แถมราคา IPO ยังมี Discount ให้อีก และถ้าดูลึกขึ้นอีกนิดจะเห็นว่า PEG ratio ของหุ้น B นั้นสุดแสนน่าดึงดูดใจ เพราะต่ำเพียง 17.5/25 = 0.7 เท่า แค่นั้นเอง
เรียกได้ว่าราคาของ หุ้น B นั้นต่ำกว่าพื้นฐานของบริษัท (undervalued) ด้วยซ้ำ!
สรุป
เลิกดูได้แล้วครับ ราคาพาร์ เพราะมันแทบไม่มีความหมายอะไรเลยว่าหุ้นถูกหรือหุ้นแพง
ถ้ามีเพื่อนคนไหนยังเอาราคาพาร์มาเปรียบเทียบ.... คุณก็สะกิดเค้าหน่อยละกันครับ 555