ตลาดผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าร์ในประเทศจีน ต้องพบกับความกดดันเรื่องราคาแผงที่ลดลงอย่างรวดเร็ว และเกิดปัญหาหนี้สินก่อตัวสูง แม้รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีผู้ผลิตแผงโซล่าร์ เพื่อหวังให้สามารถลดปัญหามลพิษรุนแรงในเมืองสำคัญของจีน แต่ปัญหาเรื่องราคาแผงโซล่าร์ตกต่ำยังคงสร้างปัญหาขาดทุนกับผู้ประกอบการณ์ในตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ธนาคารของรัฐบาลจีนเตรียมเข้าช่วยเหลือ บริษัท Yingli Green Energy Holding หนึ่งในผู้นำของธุรกิจผลิตแผงโซล่าร์ ซึ่งมีประวัติเป็นผู้นำของประเทศจีน ตั้งแต่ช่วงเริ่มการเติบโตของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ จนปัจจุบันยังคงขาดทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
สำหรับธนาคารรัฐวิสาหกิจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยคือ China Development Bank ซึ่งเตรียมปล่อยเงินกู้กับ Yingli เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดผลิตแผงโซล่าร์ โดยการควบรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างหนี้ ให้สามารถดำเนินการลดภาระหนี้สิน กลับมาทำกำไรและแข่งขันได้
แม้ว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิงจะประกาศนโยบายบังคับปิดกิจการ สำหรับบริษัทที่มีการบริหารจัดการประสิทธิภาพต่ำ และไม่สามารถทำกำไรได้ใน 2-3 ปีหลักจากนี้ แต่ Yingli เป็นบริษัทชั้นนำของจีนที่มีความสามารถการผลิตและแบรนด์แข่งขันได้ในระดับโลก รัฐบาลจีนจึงมีโอกาสเข้าช่วยเหลือมากกว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง Suntech Power Holdings และ LDK Solar ซึ่งรัฐบาลปล่อยให้ล้มละลายไป
ปัจจุบัน บริษัท Yingli มีหนี้สินสูงกว่า 1.9 พันล้านดอลล่าร์ หรือ 6.6 หมื่นล้านบาท เป็นหนึ่งในความเสี่ยงสูงสุดที่จะทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะการขาดทุนยังคงดำเนินต่อไปจากราคาแผงโซล่าร์ที่ยังตกต่ำ เพื่อแก้ปัญหานี้ ธนาคาร China Development Bank เตรียมปล่อยกู้เงินประมาณ 500 ล้านดอลล่าร์ เป็นการช่วยบริษัท Yingli ลดภาระหนี้สินจำนวน 1.9 พันล้านดอลล่าร์ และสามารถประคองตัวให้อยู่รอดได้ในภาวะอุตสาหกรรมตกต่ำรอบนี้
ประวัติศาสตร์บ่งบอกว่า จีนมักยินดีที่จะเลือกช่วยเหลือผู้ชนะและสนับสนุนการรวมตัวของผู้เล่นในอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถมองเห็นได้นอกเหนือจากอุตสาหกรรมพลังงานโซล่าร์ อย่างปิโตรเคมี น้ำมัน เคมีภัณฑ์ และเกษตรกรรม
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่องทุกปีทำให้ราคาหุ้น Yingli Green Energy Holding ลดลงจากระดับ $130 ในปี 2011 เหลือเพียง $4.9 ในกลางเดือนมีนาคมปี 2016
ขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg New Energy Finance
ขอบคุณภาพจาก NBC News
บทความโดย บูม / FB: MoneyCrown