ดัชนีตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่เปิดปี2567 มา ถือว่าตลาดไม่ไปไหนเลยนะครับ Sideway ออกข้าง วอลุ่มยังซึมๆอยู่
ณ. เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่เขียนบทความนี้ SET Index อยู่ที่ 1388 จุด YTD -1.9% ซึ่งต้องถือบรรยากาศดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้วเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม
เพราะช่วงปลายเดือนมกราคม เสียงส่วนใหญ่เริ่มถอดใจ มอง SET Index ว่าจะลงไป 1300 ต้นๆ แน่ๆ
ผ่านไปสัปดาห์เดียว ... SET ดีดมาที่เกือบ 1400 แล้วออกข้างซึมๆ ยังถือว่าไม่เสียอาการ หุ้นไทยตัวใหญ่หลายตัวที่เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการออกมา ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายนะ โดยเฉพาะกลุ่ม ท่องเที่ยว ค้าปลีก ไฟฟ้า สื่อสาร ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ความกังวลของนักลงทุนหุ้นไทย ยังคงอยู่เสมอ
ผมได้ฟังรายการวิเคราะห์การลงทุนรายการหนึ่ง ไม่ทันไร ก็ออกมาเตือนว่า
"หุ้นไทย แพงไปแล้ว!!!" ???
ตลาดหุ้นไทยตอนนี้
- P/E (เท่า) 18.18 เท่า (เมื่องบไตรมาส 4 ทยอยประกาศ ผมเชื่อว่า PE จะลดลง)
- P/BV 1.35 เท่า
- Dividend Yield 3.35%
เอาจริงๆ ไม่ได้ดูแพง อะไรเลย เป็นค่าปกติของตลาดหุ้นไทย และหากมองในเชิงสถิติย้อนหลัง 5 ปีไปถึงปีก่อนโควิด
- ดัชนี SET Index สัปดาห์ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 = 1688 จุด
- ดัชนี SET Index สัปดาห์ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2565 = 1699 จุด
- ดัชนี SET Index สัปดาห์ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2564 = 1496 จุด
- ดัชนี SET Index สัปดาห์ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2563 = 1535 จุด
- ดัชนี SET Index สัปดาห์ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2562 = 1636 จุด
วันนี้ดัชนี SET Index ที่ 1388 มันคือค่าต่ำที่สุดแม้ว่าจะเทียบกับช่วงโควิดก็ตาม และทุกสำนักต่างก็มองว่าปี 67 นี้ เศรษฐกิจไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัว GDP เติบโตราว 3% ได้
ช่วงเวลาแบบนี้ กลยุทธ์การลงทุนควรเป็นแบบ Selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ลงทุนหุ้นรายตัว ยังมีหุ้นที่ Downside Risk ต่ำ ในขณะที่ผลประกอบการไม่ควรแย่ลงใน 4 ไตรมาสข้างหน้าอีกหลายๆตัว
อย่างไรก็ตาม หุ้นพวกนี้ ไม่ต้องหวังจะโต 2X 5X 10X แบบหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศนะ เพราะมันหวังไม่ได้ มันโตแบบนั้นไม่ได้ เอาแค่ฟื้นกลับไปที่ Pre-Covid นักลงทุนก็ได้ก้าวยาวๆ คำใหญ่ๆ แล้ว
ความยากที่สุด คือ เลือกหุ้นให้ถูกตัวละกัน
สถิติ การเลือกหุ้นในตลาดที่มีโอกาสเป็นขาขึ้น 5 ตัว
มักจะแพ้ 1 ตัว ...ตามตลาด 2 ตัว... ชนะธรรมดา 1... และชนะมาก 1 ตัว
Stock Selection สำคัญเสมอครับ