#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#แนวคิดด้านการลงทุน

หุ้น OR ที่ราคา IPO ยังเท่ากับ โอกาส ไหม ?

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
2,453 views

หนึ่งในหุ้นมหาชนที่มีนักลงทุนไทยรู้จักมากที่สุดตัวหนึ่ง และอาจจะเคยซื้อ-ถือ-ขาย มาก่อน ผมคิดว่า จะต้องมีชื่อหุ้นของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น OR อยู่ในลำดับต้นๆอย่างแน่นอน 

 

  • ช่วงเวลาตรุษจีนทีไร ผมจะนึกถึงหุ้น OR ทุกที ... ช่วงเวลากลางเดือนกุมพาพันธ์นี้เมื่อ 3 ปีก่อน หุ้น OR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 64 หลังนำหุ้นเสนอขาย IPO แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ที่ราคา 18 บาท

 

  • ผมยังจำบรรยากาศความคึก ที่ประชาชนแห่จองล้นหลาม ใช้วิธี small lot first กระจายหุ้น โดยเฉลี่ยได้รับจัดสรรคนละ 4,400 หุ้น มีคนถือหุ้นในช่วงแรกมากกว่า 5 แสนราย ถ้าประชุมผู้ถือหุ้นแล้วมากันครบ สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ยังไม่พอรองรับ 

 

  • เข้าตลาดมาวันแรก ตรุษจีนพอดี เคาะซื้อขายกันสนั่นมันมากๆ วันแรกราคาพุ่งขึ้นไปปิดที่ 29.25 บาท สูงกว่าจอง 11.25 บาท หรือสูงกว่าจอง 62.50% และปรับตัวขึ้นไปสูงสุดทะลุ 30 บาทในอีกไม่กี่สัปดาห์ นักลงทุนรายย่อยประทับใจมาก เหมือนได้รับแจกอั่งเปากันถ้วนหน้า ทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับหุ้น OR ในช่วง 1 เดือนแรก ทุกคนจะได้กำไรหมด (เพราะทำ Higher High ขึ้นไปเรื่อยๆ) นี่คือพระเอกขี่ม้าขาวมาปลุกให้ตลาดหุ้นไทยคึกคักในช่วงปี 2564 อย่างแท้จริง รายย่อยมือใหม่ มาเปิดพอร์ตการลงทุนกับสารพัดโบรคเกอร์ เพื่อรองรับการโอนหุ้น OR เข้าบัญชีกันมากมาย 

 

  • แต่หลังจากนั้น ครึ่งปีหลังของปี 2564 ต่อเนื่องมาสู่ปี 65 ถึงปัจจุบัน ราคาหุ้น OR ก็ค่อยๆหมดแรง จาก 30 กว่าบาท มาเทรดที่ 20 กว่าบาทเป็นเวลานาน แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ราคาก็กลับลงมาเทรดที่ IPO 18 บาทนั่นแล หากเราดูที่รายละเอียดในเชิงกำไร ก็จะพบว่าแม้รายได้ Top Line ของ OR จะเพิ่มขึ้น แต่กำไรบรรทัดสุดท้ายกลับไม่เติบโตขึ้นเท่าไหร่เลย 

 

  • ในเชิงธุรกิจ OR ประกาศเสมอมาเรื่องรายได้จาก Non-Oil แต่ต้องยอมรับว่า รายได้และกำไรส่วนใหญ่ก็ยังมาจาก Oil ธุรกิจค้าน้ำมัน (ในปั๊มน้ำมัน)นั่นแหละ นี่คือหุ้นที่ธุรกิจหลักคือ Retail Oil Operator และตลอดสามปีที่ผ่านมา การ M&A (ควบรวมกิจการ) ธุรกิจ Food & Beverage (อาหารและเครื่องดื่ม) เอาตรงๆคือไม่มีดีลไหนที่จะพูดได้ว่า“ว้าว!” ยังไม่สามารถสร้างการเติบโตจากอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆได้จริง ยังไม่มีดีลที่มีนัยยะสำคัญจริงๆ ต่อบริษัทที่มีรายได้ระดับปีละ 8 แสนล้าน สิ่งนี้ทำให้นักลงทุนผิดหวังอยู่ไม่น้อย 

 

  • ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ราคาน้ำมันดิบอยู่ในโซนราคาค่อนข้างสูง ทำให้กระทบกับปริมาณการบริโภคน้ำมัน ทำให้หลังจากโควิดปิดเมือง ปริมาณการขายก็ยังไม่ฟื้นได้ดีดังที่คิด  ซ้ำร้าย...เจอนโยบายคุณขอมาของรัฐบาล คุมราคาค้าปลีกน้ำมัน ทั้งดีเซล เบนซิน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งกระทบต่อค่าการตลาด  เรื่องนี้ก็ยังไม่จบนะ ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเหนื่อยอยู่ 

 

  • นักลงทุนที่ถือหุ้น OR ที่ตั้งแต่ซื้อ IPO มายังไม่เคยขาย เคยเห็นกำไรแบบเขียวเข้มมาแล้ว กระทั่งเคยต่ำจอง และมาอยู่แถวราคาIPO ที่ 18 บาท ทุกวันนี้ ก็ให้กำลังใจกันครับ ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้แย่ แข็งแกร่งและเป็นผู้นำแน่นอน แต่การเติบโตที่ผ่านมาดูธรรมดาเกินไป แถมธุรกิจมีความเสี่ยงหลายอย่างจากนโยบายภาครัฐที่มากระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันหน้าปั๊ม และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV Station  

 

  • การฟื้นตัวของราคาหุ้นในระยะสั้น-กลาง น่าจะยังคงถูกจำกัดจาก (1) แนวโน้มกำไรในช่วงไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งไตรมาส 1 ปีนี้ ที่ยังคงไม่เด่น จากเหตุน้ำมันแพงและการบริโภคในประเทศที่ฟื้นช้า  (2) มาตรการควบคุมราคาน้ำมันของรัฐบาล (3) การทำ M&A ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่มีนัยสำคัญให้กับบริษัทฯ ได้

 

ความเห็นส่วนตัว เชื่อว่า ตัวหุ้นผ่านหนังชีวิตหนักๆมาเยอะพอสมควร ราคาปัจจุบันมีความสมเหตุสมผลแบบไม่ถูกไม่แพง  ราคาIPO เหมือนเป็นแนวจิตวิทยา ต่ำลงไปก็มีคนซื้อขึ้นมา สูงไปก็ถูกขายกดลงมาใหม่ ในมุมมอง Dividend Yield เงินปันผลถือว่าไม่สูงนะ 2% กว่าๆ

 

เทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่พื้นฐานดี ผ่านปีชงมา แล้วราคาลงมาถูกเหมือนกัน ผมคิดว่ามีที่น่าสนใจกว่านะครับ


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง