บริษัท Tesla Motors เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ "Model 3" ซึ่งคาดว่าราคาจะต่ำลงมากขนาดสามารถแข่งขันได้ในตลาดระดับแมส การเปิดตัว Model 3 นี้จะทำให้ Tesla เพิ่มศักยภาพขยายส่วนแบ่งของบริษัทในตลาดรถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น จากผู้เล่นชั้นนำอย่าง Chevrolet หรือ รถยนต์จากญี่ปุ่นอย่าง Nissan ซึ่งประสบความสำเร็จในตลาดระดับแมสมากกว่า
ราคาเปิดตัวขั้นต้นของ Model 3 อยู่ที่ 35,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท แต่ราคานี้ยังไม่รวมเงินสนับสนุนจากรัฐสำหรับผู้ซื้อรถพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเงินนี้อาจมากถึง 1 หมื่นดอลล่าร์ ทำให้ราคาของ Model 3 สามารถลงไปต่ำเหลือเพียง 25,000 ดอลล่าร์ หรือ 880,000 บาทเท่านั้น
ราคาของ Model 3 ในปัจจุบันหากได้รับการสนับสนุนจากรัฐมากเพียงพอก็สามารถที่จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ Tesla และเพิ่มสัดส่วนการใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นในอนาคต ด้วยระดับราคา 35,000 ดอลล่าร์ใกล้เคียงราคาเฉลี่ยรถยนต์ในตลาดอเมริกา ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 31,000 ดอลล่าร์
ผลสำรวจความคิดเห็นเรื่องการซื้อรถพลังงานไฟฟ้าของชาวอเมริกันพบว่า ภายในปี 2030 กว่า 70% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจยินดีที่จะซื้อรถพลังงานไฟฟ้าที่สามารถวิ่งระยะทางไกลได้ ที่ระดับราคา 22,500 หมื่นดอลล่าร์ หรือประมาณ 790,000 บาท
สำหรับความเสี่ยงหลักที่มีอยู่ในปัจจุบันคือ เงินสนับสนุนของรัฐต่อผู้ซื้อรถพลังงานไฟฟ้ามีจำกัดและจะค่อยๆลดลงตามจำนวนรถที่ผู้ผลิตขายได้ เมื่อเงินสนับสนุนหายไป ราคารถพลังงานไฟฟ้าจะยังคงสูงเมื่อเทียบกับรถทั่วไป หากไม่สามารถจะลดต้นทุนของแบตเตอรี่ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญลงไปได้มากพอ
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท Tesla Motors ยังคงมีผลการดำเนินงานขาดทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอดขายมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มขาดทุนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ในอนาคตข้างหน้าอีกไม่กี่ปี มีความเป็นไปได้ที่ราคาต้นทุนแบตเตอรี่จะลดลงต่อไป จนทำให้ Tesla Motors เริ่มมีกำไรได้ หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริษัท ว่าจะทำกำไรยืนได้ด้วยตัวเองเร็วพอหรือไม่ หากเงินสนับสนุนผู้ซื้อรถพลังงานไฟฟ้าหมดไปในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg และ Tesla Motors
ขอบคุณภาพจาก Electric-vehiclenews.com
บทความโดย บูม / FB: MoneyCrown