#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

ลงทุนหุ้นฮ่องกง และญี่ปุ่น ด้วย DR ผ่านตลาดหุ้นไทย

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
740 views

ช่วงนี้กระแส DR หรือ Depositary Receipt เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น
เพราะสะดวก รวดเร็ว ง่าย ลงทุนได้เลยโดยใช้สกุลเงินบาท
และยังเป็นการเปิดโอกาสลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ดีอีกด้วย

ล่าสุดได้มี DR น้องใหม่ที่กำลังจะเข้ามาซื้อขาย 3 สไตล์ที่แตกต่างกัน โดยจะเน้นลงทุนในกองทุนใหญ่ตลาดหุ้นเอเชียที่ลงทุนในบริษัทชั้นนำ 
โดยมีบล. เคจีไอ มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการดูแลสภาพคล่องผ่าน DW13 ที่การันตีด้วยการครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) อันดับ 1 ในตลาด DW หุ้นไทย และมีการลงทุนและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการดูแลสภาพคล่องมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ราคา DR หรือ DW เคลื่อนไหวตามหลักทรัพย์อ้างอิง แม้ในยามที่ตลาดผันผวน

โดย 3 ตัวล่าสุด ที่กำลังมีให้ซื้อขาย คือ HK13, HKTECH13 และ JAPAN13 
น่าสนใจแค่ไหน ไปดูกัน

 

1. HK13 ลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
ต้องยอมรับว่า กระแสของหุ้นฮ่องกงไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก 
แต่ความไม่ดี นักลงทุนบางกลุ่มมองว่าเป็นโอกาส เพราะเราต้องไม่ลืมว่า
หุ้นฮ่องกงมีหุ้นเทคโนโลยีหลายบริษัทที่มีจุดเริ่มต้นมาจากจีน และเข้ามาลิสต์ในตลาดหุ้นฮ่องกง
หุ้นเหล่านี้ ราคาไม่แพงและมีศักยภาพให้การเติบโตสูงมาก
นักลงทุนหลายคนจึงมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุนหุ้นฮ่อกง ตามมา

สำหรับ HK13 จะมีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ กองทุน Tracker Fund of Hong Kong (2800 HK) หรือก็คือ ETF ที่ลงทุนในหุ้นตามดัชนี Hang Seng โดยมีเป้าหมายให้มีผลตอบแทนใกล้เคียงหรือตามกับดัชนี Hang Seng เป็นหลัก โดยกองทุนมีขนาดใหญ่ทะลุ 500,000 ล้านบาทในปี 2023 ที่ผ่านมา

หุ้น 5 อันดับแรกที่กองทุนถืออยู่ ประกอบไปด้วย
- HSBC HOLDINGS ลงทุนในสัดส่วน 8.48%
- TENCENT HOLDINGS ลงทุนในสัดส่วน 8.12%
- ALIBABA GROUP HOLDING ลงทุนในสัดส่วน 7.95%
- AIA GROUP ลงทุนในสัดส่วน 7.30%
- MEITUAN ลงทุนในสัดส่วน 4.70%
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://thaiwarrant.com/dr/HK13


2. HKTECH13 ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง 
HKTECH13 ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงคือกองทุน Hang Seng TECH Index ETF (3032 HK) ที่จดทะเบียนในตลาด Hong Kong Stock Exchange 
ที่จะเลือกลงทุนกับหุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ที่สุด 30 อันดับแรกของตลาดหุ้นฮ่องกง

หุ้น 5 อันดับแรกที่กองทุนถืออยู่ ประกอบไปด้วย
- XIAOMI CORP ลงทุนในสัดส่วน 8.72%
- TENCENT HOLDINGS ลงทุนในสัดส่วน 8.33%
- KUAISHOU TECHNOLOGY ลงทุนในสัดส่วน 8.3%
-  JD.COM INC ลงทุนในสัดส่วน 8.26%
- ALIBABA GROUP HOLDING ลงทุนในสัดส่วน 6.94%
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://thaiwarrant.com/dr/HKTECH13


3. JAPAN13 ลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
การลงทุนในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อเรารู้จัก DR ที่เรียกว่า "JAPAN13"
JAPAN13 ถือว่าเป็น DR ตัวแรกที่เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยมีหลักทรัพย์อ้างอิงคือกองทุน ChinaAMC MSCI Japan Hedged to USD ETF ที่จดทะเบียนในตลาด Hong Kong Stock Exchange ที่อ้างอิงกับดัชนี MSCI Japan 100% Hedged to USD Index โดยมีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินจากค่าเงินเยนไปเป็นดอลลาร์แบบ 100% เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง

หุ้น 5 อันดับแรกที่กองทุนถืออยู่ ประกอบไปด้วย
- TOYOTA MOTOR CORP ลงทุนในสัดส่วน 5.64%
- SONY CORP ลงทุนในสัดส่วน 3.44%
- MITSUBISHI UFJ FINANCIAL ลงทุนในสัดส่วน 2.82%
- KEYENCE CORP ลงทุนในสัดส่วน 2.48%
- TOKYO ELECTRON ลงทุนในสัดส่วน 2.34%
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://thaiwarrant.com/dr/JAPAN13

 

กลุ่ม DR13 ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุน
โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกง และญี่ปุ่น อาจจะเป็นโอกาสของนักลงทุนชาวไทยที่จะไปลงทุนต่างประเทศได้สะดวก และยังประหยัดภาษีได้ดีอีกด้วย 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง