#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

ADVANC : เป้าหมายของกองทุนลดหย่อนภาษี ESG

โดย เม่าหล่อ
เผยแพร่:
508 views

ผู้บริหารคงเป้าหมายบริษัทสําหรับการเติบโตของรายได้จากบริการหลักสําหรับปี 2023 ที่ 3-5% YoY (+2.3% YoY สําหรับงวด 9 เดือน) หนุนจากธุรกิจบริการมือถือและบรอดแบนด์คาดว่าAIS จะสูญเสียลูกค้ากลุ่มบริการมือถือในอัตราที่ชะลอลงขณะที่คาดว่ารายได้เฉลี่ย ต่อเลขหมาย (ARPU) จะปรับดีขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ไตรมาส 4/23 (เริ่มเห็นสถานการณ์ที่ปรับดีขึ้นแล้วในเดือนต.ค. 2023) 

ADVANC เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี จ่ายเงินป้นผลอย่างสม่ำเสมอที่อัตราราว 3-4%

เป็นหนึ่งในหุ้น Blue chip ที่น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษี ESG หุ้นไทยปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทได้รับ SET ESG Rating ปี 2566 ระดับ AAA 

ธุรกรรมซื้อและขาย TTTBB และ JASIF ระหว่าง JAS และ ADVANC เสร็จสมบูรณ์แล้วด้วยมูลค่าปรับปรุงที่ 2.837 หมื่นลบ. (3.242 หมื่นลบ.ก่อนหน้านี้)

ทั้งนี้มูลค่าธุรกรรมซื้อหุ้นและหน่วยลงทุน มีการปรับจากมูลค่า ดังนี้

  1. ปรับลดจากผลกระทบเชิงลบที่มีนัยสำคัญ (Material Adverse Change: MAC) จำนวน 3,000 ล้านบาท ออกจากมูลค่าธุรกรรมซื้อหุ้น TTTBB 19,500 ล้านบาท จากการประเมินสถานะของธุรกิจ (Due Diligence) เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไป และผลการดำเนินงานของ TTTBB ที่ได้รับผลกระทบจากการ แข่งขันในธุรกิจบรอดแบนด์
  2. หักเงินปันผลที่บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ได้รับจาก JASIF หลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ธุรกรรมซื้อหุ้นและหน่วยลงทุนเสร็จสมบูรณ์ จำนวน 1,049 ล้านบาท ออกจากมูลค่าธุรกรรมซื้อหน่วยลงทุน JASIF12,920 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้เปิดเผยไว้ในสารสนเทศรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565

ผู้บริหารคาดว่าดีล 3BB จะช่วยกระตุ้นการสร้างกระแสเงินสดได้ภายใน 12-18 เดือนหลังควบรวมแต่ยังไม่คิดว่าจะเป็นตัวกระตุ้นกําไรในระยะสั้นและกลางเพราะดีลนี้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดจํานวนมากส่วนใหญ่คือรายการทางบัญชีด้านค่าเช่าทั้งนี้คาดว่าดีลจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส  4/23  ถึงครึ่งแรกปี 2024 คาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและอื่นๆที่ไม่ใช่รายการเงินสดจะฉุดกําไรของ ADVANC ลงในช่วงแรกแต่ท้ายที่สุดดีลนี้จะเป็นคุณภายในปีที่3หลังควบรวมเพราะจะช่วยหนุนให้มีประสิทธิภาพในการดําเนินงานดีขึ้นและหนุนให้มีเครดิตที่ดีขึ้น 

สรุปผลประกอบการไตรมาส3/23

  • กําไรสุทธิไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท(+35%YoY, +14% QoQ) หากไม่รวมกําไรจากการขายหุ้น33%ในRabbit LINE Payคิดเป็นเงินจํานวน 434 ล้านบาทกําไรปกติจะอยู่ที่ราว 7.6 พันล้านบาท(+21% YoY, +6% QoQ)กําไรปกติที่โตขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่ลดลงโดยเฉพาะSG&A และD&Aที่ลดลง
     
  • ยอดขายไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 4.6  หมื่นล้านบาท(ทรงตัวYoY, +3%QoQ)ยอดขายที่ทรงตัวYoYเป็นผลจากรายได้ธุรกิจบรอดแบนด์ที่สูงขึ้นนั้นถูกหักลบโดยยอดขายมือถือที่ลดลง  (iPhone15 เปิดตัว 1 สัปดาห์ให้หลังเมื่อเทียบกับiPhone14 ที่เปิดตัวเดือน ก.ย. 2022)
     
  • ADVANC ปิดไตรมาสด้วยจํานวนลูกค้าบริการมือถือที่ 44.4 ล้านบาท(-1.2mYoY, -866kQoQ) และARPUจากบริการมือถือโดยรวมอยู่ที่ 216 บาท(+1.8% YoY, +1.2%QoQ)แม้AISจะสูญเสียลูกค้าไปจํานวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเติมเงินแต่ ARPU ที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยช่วยให้รายได้ธุรกิจบริการมือถือยังทรงตัวได้ชี้เป็นนัยว่าลูกค้าที่เสียไปส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยทํากําไร
     
  • EBITDA margin ในไตรมาส 3/23 ขยายตัวขึ้น2.6ppts YoYแต่ลดลง-0.8ppts QoQ เป็น 50.5% บริษัทมี SG&A ที่ลดลงแรงหลังจากลดค่าใช้จ่ายการตลาดลง (SG&A ต่อยอดขายไตรมาส 3/23 ที่10.8% ไตรมาส 2/23 ที่11.0% และไตรมาส 3/23 ที่ 12.3%) ผู้บริหารคาดว่าค่าใช้จ่ายการตลาดจะปรับเพิ่มอีกครั้งแต่ไม่มากเหมือนก่อน (ค่าเฉลี่ย SG&A ต่อยอดขายกรอบ3ปีอยู่ที่ 12.0%)

 

อ้างอิง settrade, ryt9, Pi Research, KSecurities


บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง