ถ้าให้นึกถึงธุรกิจที่ไม่ค่อยผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ หรือมีความอ่อนไหวน้อย คุณนึกถึงธุรกิจอะไรบ้าง?
หนึ่งในคำตอบของคำถามนี้ น่าจะมี ‘อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์’ ติดโผเข้ามาในความคิดของใครหลายคนอย่างแน่นอน
เพราะธุรกิจดังกล่าวเป็นสินค้าจำเป็นที่มีความสำคัญต่อสุขภาพ และยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยและผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยที่ 5-7% (ปี 2565 - 2566)
โดยเร็ว ๆ นี้ มีบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ ที่กำลังเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นั่นคือ ‘บมจ. นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น’ ซึ่งจะใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “NAM”
แม้เป็นน้องใหม่ใน SET แต่ บมจ. นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น หรือ NAM ก่อตั้งธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2513 จากจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่นำเครื่องมือแพทย์ประเภทเครื่องนึ่งไอน้ำ (ด้วยแก๊ส) เข้ามาใช้ในการทำความสะอาดอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรายแรก และผลิตภัณฑ์เครื่องแรกที่ผลิตขึ้นโดยฝีมือคนไทย เพื่อทดแทนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
ซึ่งได้สั่งสมประสบการณ์ในแวดวงการแพทย์มานานกว่า 50 ปี … มาดูกันว่า ธุรกิจของ NAM ในวันนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

1. มีผลิตภัณฑ์และบริการใน 3 กลุ่มหลัก
ปัจจุบัน NAM เป็นบริษัทผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร เช่น การบำรุงรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์
โดยสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์และบริการเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ (Manufacture and Sales of Medical Devices: SM) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์บําบัดขยะติดเชื้อ ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อในอากาศและผิวสัมผัส และเฟอร์นิเจอร์ทางการแพทย์ โดยเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุด
- กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (Manufacture and Sales of Medical Consumables: CS) ได้แก่ วัสดุตัวชี้วัดในการทำให้ปราศจากเชื้อ สินค้าทำความสะอาดทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์
- กลุ่มงานให้บริการ (Services: SV) ได้แก่ การให้บริการหลังการขาย การให้บริการทำให้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ปราศจากเชื้อ การให้บริการบําบัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์

2. มีฐานลูกค้าเป็นโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขกว่า 1,200 แห่ง
NAM มีฐานลูกค้าที่สำคัญ คือ กลุ่มโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุขรวมกว่า 1,200 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศ ดังนี้
- โรงพยาบาลรัฐ ครอบคลุมทั้งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และโรงพยาบาลประจำจังหวัดและอำเภอ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ
- หน่วยงานภาครัฐ เช่น สถาบันการศึกษาทางการแพทย์ ศูนย์บริการสาธารณสุข มูลนิธิ เรือนจำ สถานบำบัดและพักฟื้นผู้ติดยา
- โรงพยาบาลเอกชน ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
- คลินิกเอกชนและอื่น ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม สถานศึกษา ที่พักอาศัย
นอกจากนี้ NAM ได้วางกลยุทธ์เพื่อรักษาการเติบโตของสินค้าและบริการที่มีอยู่ให้มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลรัฐ และเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ เช่น โรงพยาบาลเอกชน คลินิก ที่ยังมีสัดส่วนการซื้อน้อย โดยใช้จุดแข็งคือความครบวงจร ตั้งแต่การผลิต นำเข้า จำหน่าย รวมถึงบริการต่าง ๆ ซึ่งมีมาตรฐานในระดับสากล เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรม
3. ‘อินโนบิก’ บริษัทในเครือ ปตท. เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ในปี 2565 ที่ผ่านมา นักลงทุนบางท่านอาจจะได้เห็นข่าวแล้วว่า กลุ่มบริษัทในเครือ ปตท. ได้เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ NAM ในสัดส่วน 17.65% ภายใต้ ‘บจ. อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง’ จากการเล็งเห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจ และพัฒนาความร่วมมือเพื่อขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ NAM ที่จะก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
เพื่อเพิ่มโอกาสในการไปสู่เป้าหมายดังกล่าว NAM จึงมีกลยุทธ์ขยายการส่งออกสินค้าและบริการไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในต่างประเทศมากขึ้น โดยได้จัดเตรียมโครงสร้างองค์กรเพื่อดูแลการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะ และบริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจใหม่ โดยยังคงเน้นการขยายศักยภาพด้านการผลิตสินค้าทางการแพทย์ที่ทันสมัย และครอบคลุมความต้องการในการใช้งานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
4. งบ 3 ปีล่าสุด เติบโตทั้งรายได้และกำไรสุทธิ
ในช่วงปี 2563 – 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 678.86 ล้านบาท, 998.00 ล้านบาท และ 1,111.75 ล้านบาท ตามลำดับ โดยสัดส่วนกว่า 98% เป็นรายได้จากการขายและให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้า เช่น เครื่องล้างทำความสะอาด เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ เครื่องอบฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์
ขณะที่ฝั่งกำไรสุทธิ มีจำนวน 110.44 ล้านบาท, 169.68 ล้านบาท และ 175.71 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 – 2565 ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรที่ 16.27, 17.00 และ 15.81 ตามลำดับ
5. เตรียมลงทุนใน 3 โครงการใหญ่
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้ NAM จะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 181 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.86 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อนำเงินบางส่วนที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในโครงการใหม่ ดังนี้
- ขยายโรงงานแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ทั้งในส่วนเครื่องมือทางการแพทย์และกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ภายในปี 2567 - 2568
- พัฒนาศูนย์วิจัยและผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อพัฒนามาตรฐานการทำความสะอาดอุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องมีการนำกลับมาใช้ใหม่ ภายในปี 2567
- โครงการลงทุนหรือร่วมลงทุนในบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ หรือมีนวัตกรรมที่ส่งเสริมการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ

สำหรับนักลงทุนที่สนใจร่วมเติบโตไปกับ NAM และธุรกิจที่เป็นส่วนหนึ่งของการแพทย์อย่างเต็มรูปแบบ สามารถจองซื้อหุ้นได้ในวันที่ 19, 20, 24 ต.ค. นี้ โดยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=521537