โดยปกติ เวลาเราพูดถึงเรื่องของการปันผลของหุ้น
นักลงทุนมักจะถามหาแต่เรื่อง Dividend Yield 
โดย Dividend Yield หรือ อัตราผลตอบแทนเงินปันผล หมายถึง อัตราส่วนที่จะทำให้เรารู้ว่า นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนในรูปปันผลมากแค่ไหนเทียบจากราคาหุ้น
เช่น หุ้น XYZ มี Dividend Yield 5% หมายความว่า ในราคาหุ้น 100 บาท เราจะได้ปันผล 5 บาท ต่อ 1 หุ้น

แต่สิ่งที่นักลงทุนในหุ้นปันผล มองข้ามไปคือเรื่องของ Dividend Payout Ratio
Dividend Payout Ratio หรือ อัตราส่วนเงินปันผลต่อกำไร
หมายความว่า บริษัทจ่ายเงินปันผลมากแค่ไหนจากกำไรที่บริษัททำได้
เพราะโดยปกติแล้ว ถ้าบริษัททำกำไรได้ 100 บาท ไม่ได้หมายความว่าจะจ่ายเงินปันผลออกมาทั้ง 100 บาท 
อาจจะต้องกันบางส่วนไว้สำหรับลงทุนต่อในปีหน้า และบางส่วนที่ต้องนำมาจ่ายปันผล
ส่วนที่ต้องนำมาจ่ายปันผล เราจะเรียกว่า Dividend Payout Ratio
พูดง่าย ๆ คือค่านี้บอกถึงความตั้งใจของบริษัทในการจ่ายเงินปันผล

ถ้าบริษัท XYZ มี Dividend Payout Ratio อยู่ที่ 40% จะหมายความว่า ในกำไรสุทธิ 100 บาท 
บริษัทจะจ่ายปันผล 40 บาท และเก็บไว้อีก 60 บาท เพื่อการลงทุนต่อยอดในอนาคต
หากบริษัทไหนจ่ายปันผลมากกว่าก็จะมีค่านี้สูงกว่า

อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะสงสัยว่า ระหว่าง Dividend Yield และ Dividend Payout Ratio แตกต่างกันตรงไหน ?
จำง่ายๆว่า
Dividend Yield ช่วยบอกว่า เทียบกับราคาหุ้น ผลตอบแทนจากปันผลเยอะแค่ไหน
Dividend Payout Ratio  ช่วยบอกว่า บริษัทจ่ายเงินปันผลให้เราเท่าไร เมื่อเทียบจากสัดส่วนกำไรสุทธิ

คำถาม คือ Dividend Payout Ratio ควรจะเยอะๆไว้ก่อนดีไหม
คำตอบ คือ แล้วแต่กรณี
ถ้านักลงทุนชอบหุ้นที่จ่ายปันผลเยอะๆ การที่บริษัทมี Dividend Payout Ratio สูงๆก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดี
แต่เราต้องไม่ลืมว่า การที่บริษัทเลือกจ่ายปันผลออกมาเยอะๆ แล้วเก็บไว้กับตัวบริษัทน้อยๆอาจจะบ่งบอกว่าบริษัทหาการลงทุนใหม่ๆไม่ได้ การเติบโตในอนาคตก็จะน้อย เลยเลือกที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นออกมาดีกว่า

แต่การจ่ายเงินปันผลเยอะๆ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
เพราะหลายๆครั้ง บริษัทมีธุรกิจที่ไปได้เรื่อยๆ สินค้าที่ติดตลาดอยู่แล้วและไม่ต้องการการลงทุนสูงๆ
เลยเลือกที่จะจ่ายเงินปันผลออกมามากๆ และอยู่มาจนถึงปัจจุบันโดยไม่มีปัญหาอะไรก็มีให้เห็นอยู่มาก ด้วยเหมือนกัน 
ไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่า บริษัทมีปัญหา หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่ตะวันตกดิน
ในทางกลับกัน บริษัทที่มี Dividend Payout Ratio น้อยๆ และให้เหตุผลกับนักลงทุนว่าเก็บเงินไว้ลงทุนต่อยอดดีกว่า (หรือหลายๆครั้งเลือกที่จะไม่จ่ายเงินปันผล) กลับกลายเป็นว่า การลงทุนใหม่ๆของบริษัทไม่ประสบความสำเร็จ
เงินที่นักลงทุนควรจะได้ปันผลก็ไม่ได้ การเติบโตรอบใหม่ของบริษัทก็ไม่มี แบบนี้จะเป็นผลเสียมากกว่านั่นเองครับ

สุดท้าย นักลงทุนที่ชอบในหุ้นปันผล 
สามารถคัดเลือกหุ้นจาก SETHD (High Dividend) ประกอบไปด้วยหุ้น 30 ตัวที่จ่ายปันผลดี
ดูรายชื่อหุ้นได้จากที่นี้ : https://www.set.or.th/th/market/index/sethd/overview