คำถามนี้น่าสนใจดี
"พี่เชื่อว่า SET จะลงไป 1,100 จุด หรือ 1,200 จุดไหม? ถ้าเชื่อพี่ทำยังไงถ้าไม่เชื่อพี่ทำยังไง?
ตอบ
การลงทุนคือการวัดใจกับศรัทธาและความเชื่อของเราครับ
เราซื้อหุ้นเพราะเราเชื่อว่าผลประกอบการมันจะดีขึ้น กิจการจะฟื้นตัวหรือจะเติบโตอะไรก็แล้วแต่ ที่กำไรสุทธิจะผลักดันให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นในปีหน้าหรือแม้แต่ในอีก 3-5 ปี
ในช่วงใดก็ตามที่ตลาดในภาพรวมมีความเสี่ยงเช่นช่วงเวลานี้
>>> ถ้าเราเชื่อว่าโลกจะแตก โรคระบาดจะมาตลาดจะพัง ดัชนีจะลงจากจุดปัจจุบันไปอีก 300 จุด กลยุทธ์หลักนั้นง่ายมาก คือล้างพอร์ตทันทีเท่านั้นครับ แล้วค่อยไปรับเอาอีก หลัง -300 จุดข้างหน้า รับรองว่ากำไรไหลมาเทมาเมื่อตลาดฟื้นตัวครับ ง่ายๆแบบนี้เลย อันนี้คือท่ารำตอนสมัยโควิด
>>> ถ้าเราไม่เชื่อว่าตลาดจะพังในระดับเดียวกับโควิดแบบนั้นพอร์ตจะว่างไปเลยก็ไม่ดี พอร์ตจะเต็มเกินไปก็ไม่ได้ การที่ SETหยุดลงแล้วทยอยขึ้นอย่างเงียบๆเกิดขึ้นได้เสมอ บรรยากาศเหมือนช่วงเดือนตุลาคมปี 2563 ครับ ถ้าเรายังพอมีเงินสดเหลือ อาจค่อยๆทยอยรับได้ตามหุ้นที่ชอบที่ชอบ แต่ถ้าถือเต็มแล้วก็ต้องขายปรับพอร์ตเอา
เช่นใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีลดพอร์ตจากการถือกอง REIT บางตัวลงและขายหุ้นไฟแนนซ์ แล้วไปเข้าหุ้นท่องเที่ยวแทน มันคือการขายเปลี่ยนตัวจากโอกาส upside น้อยไปหาหุ้นที่มีโอกาส upside สูงกว่านั่นเอง
สรุปคือเชื่อแบบไหนก็ไม่ผิดนะ
ตลาดหุ้นคือการ bet กับความเชื่อและความศรัทธา
โดยมีเงินจริงในกระเป๋าเราเป็นเดิมพันครับ