#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

สัมภาษณ์พิเศษ เบื้องหลังความสำเร็จของ TRP จากคลินิกความงาม สู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะใบหน้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่กำลังจะ IPO เร็วๆนี้

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
737 views

ปัจจุบัน การศัลยกรรมความงามไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น เนื่องจากกระแสการดูแลตัวเองได้รับความนิยมอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยกลางคนก็ตาม

 

เพราะถ้าเราดูตัวเลขจากอุตสาหกรรมศัลยกรรรมในไทย จะพบว่าเมื่อปี 2017 มูลค่าตลาด อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2022 มูลค่าอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

 

ลองดูได้จากชีวิตประจำวันของเราก็ได้ เพราะ ไม่ว่าจะไปทางไหน อย่างน้อยเราจะเห็นคลินิกความงามสักหนึ่งแห่งผ่านสายตาบ้าง

 

วันนี้ stock2morrow จะพานักลงทุนทุกท่านมารู้จักคลินิกแห่งหนึ่งที่อยู่ในธุรกิจศัลยกรรม ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาสร้างผลประกอบการได้น่าสนใจมาก  โดยมีอัตรากำไรสูงกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน นั่นคือ  “ธีรพรคลินิก” 

 

และเราจะมาเล่าถึงเบื้องหลังการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธีรพร หรือ “TRP” ที่กำลังจะได้เสนอขายหุ้นให้กับคนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในเร็วๆนี้

151A5146.jpg

 

จุดเริ่มต้น “ธีรพรคลินิค”

ธีรพรคลินิก เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในปี 2525 โดยผศ.นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์  คุณหมอชลธิศมีดีกรีเป็นถึงอดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน และเป็นอดีตอาจารย์ ของคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล  คุณหมอมีหนังสือและงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์และจำหน่ายไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้รับเชิญไปสอนทั้งในยุโรป อเมริกา และกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้มีโอกาสได้สั่งสมประสบการณ์ และได้ความรู้นำกลับมาพัฒนาเทคนิคในการผ่าตัดอยู่เสมอ

 

ในปี 2530 คุณหมอชลธิศได้คิดคนเทคนิคการผ่าตัดตาสองชั้นแบบกรีดสั้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้เป็นเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับคนเอเชียที่ต้องการความสวยแบบธรรมชาติ ให้ชั้นตาดูโต สดใสและใช้เวลาพักฟื้นสั้นๆ 

 

ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้คนทั่วไปได้รู้จักธีรพร และ หมอชลธิศ

 

 

ในปี 2536  คุณหมอเริ่มพบคนไข้ที่มีปัญหาจากการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เข้ามารับการรักษากับคลีนิกมากขึ้นเรื่อยๆ คุณหมอชลธิศ จึงได้คิดค้นและพัฒนาเทคนิคการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Stem cell) ซึ่งช่วยแก้ปัญหาจมูกทะลุจากการใส่ซิลิโคน หรือ จัดทรงจมูกได้อย่างปลอดภัย 

 

ต่อมาในปี 2540 ได้มีการคิดค้นและพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งช่วยให้บวมช้ำน้อย ระยพักฟื้นสั้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที และซ่อนรอยแผลหลังการผ่าตัดได้อย่างเรียบเนียนด้วย โดยได้ตั้งชื่อเทคนิคนี้ว่า "FACE - LOCK"

 

หลังจากนั้น คุณหมอชลธิศได้เริ่มทำการสร้างทีมอาจารย์แพทย์ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ด้านต่างๆเกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เพื่อให้วงการแพทย์ด้านนี้เติบโต และเป็นผู้นำในระดับประเทศ จนออกไปสู่ระดับอาเซียน

 

ซึ่งต่อมาก็ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย  เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2559 และได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล เพื่อจะให้ธุรกิจด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้าของประเทศไทย 

 

ผ่านวิกฤตช่วงล็อคดาวน์ และฟื้นตัวได้อย่างไร ?

นพ.คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล กรรมการบริษัท/ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ  ได้เล่าให้ฟังว่า “ช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น  ธีรพรเหมือนได้เจอโอกาสในวิกฤตอย่างแท้จริง เพราะได้มีเวลามาทบทวนตัวเอง และพบว่าเรามีโปรดักส์ที่ดี ที่ทำได้เฉพาะที่ธีรพรคลินิกเท่านั้น เป็นเทคนิคที่เราคิดค้นขึ้นมาเอง  ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการดึงหน้าที่เรียกว่า  FACE – LOCK รวมถึงไปถึงโปรแกรมทำตาสองชั้น”

 

“โดยที่ผ่านมาธีรพรคลินิกทำการตลาดน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็น word of mouth  แต่ช่วงโควิด-19 ทำให้เรามีเวลาเอาของดีที่เรามี มาสื่อสารมากขึ้นในโลกออนไลน์ 

 

พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น มีการกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง คนที่ติดตามเรามาตลอดในช่วงล็อคดาวน์ พอมีจังหวะ เขาก็อยากมาหาเรา มันก็เลยทำให้ยอดรายได้ของธีรพรคลินิกพุ่ง ซึ่งมันดีเกินความคาดหมายจริงๆ”

 


ลูกค้าของธีรพรคลินิก คือ ใคร ?

โดยหลักๆแล้ว ลูกค้าที่มาใช้บริการ จะแบ่งเป็น

1. วัยเด็กอายุน้อยกว่า 30 ปี ส่วนใหญ่ก็จะมาทำตาสองชั้น และจมูก เพราะยังเป็นวัยรุ่นกันอยู่ ยังไม่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย มีปัญหาแค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก

2. วัยกลางคนช่วงอายุประมาณ 30 - 45 ปี กลุ่มนี้ก็มีกำลังใช้จ่ายมากขึ้น ก็จะมารักษาเรื่องกรอบหน้า  เรื่องริ้วรอยมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นเรื่องตา และจมูก เป็นส่วนใหญ่ 

3. วัย 45 ปีขึ้นไป จะมาใช้บริการแก้ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยที่ชัดเจนมากขึ้น หางตาตก จะเน้นเรื่อง FACE – LOCK เป็นหลัก

 

มองก้าวต่อไปของ TRP หลังเข้ามาในตลาดฯ ไว้อย่างไร ?

“ขยายเป็นโรงพยาบาลเลย” นพ.ชลธิศ ตอบอย่างรวดเร็ว 

 

นพ.คงศักดิ์ เสริมต่อว่า “เรายึดมั่นในแนวทางของธีรพรคลินิก คือ เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะใบหน้า”

 

วัตถุประสงค์ในการ IPO ทาง TRP นั้น จะนำเงินไปใช้ในการ


1. ลงทุนโครงการก่อสร้างโรงพยาบาล 
โดย TRP จะขยายจากคลินิกไปเป็นโรงพยาบาล ซึ่งจะกลายเป็นโรงพยาบาลเฉพาะสำหรับการตกแต่งศัลยกรรมใบหน้าแห่งแรกของประเทศไทย

 

2. จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์

 

3. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

 

4. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนอื่นๆ และการขยายธุรกิจของบริษัท

 

อย่างที่เราทราบกันว่ากระแสของสังคมผู้สูงอายุมาแน่ๆ คนจะหันมาดูแลสุขภาพและใบหน้าตัวเองมากขึ้น รวมไปถึงจำนวนลูกค้าต่างชาติที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปได้อีก

 

พอเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะนิยามตัวเองเป็นหุ้นแบบไหน และมีวิสัยทัศน์อย่างไร ?

ผศ.นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ได้บอกว่า 

 

“มองว่า TRP เป็นหุ้นพื้นฐาน  และผมมองว่า “งานวิชาการ” เป็นแกนหลักของธีรพรคลินิก ดังนั้นในการบริหารก็ยังเน้นเรื่องของวิชาการเป็นหลักเหมือนเดิม เน้นเรื่องนวัตกรรม เทคนิควิธีการใหม่ๆ 

 

แต่พอหลังเข้าตลาดฯแล้ว ส่วนนึงก็จะต้องคิดถึงผู้ที่มาลงทุนกับเราด้วย เพราะเราอยากให้นักลงทุนอยู่กับเราไปนานๆ”

 

โดยทาง TRP มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นเป็นหลัก และการจ่ายเงินปันผลนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทด้วย

 

ผลประกอบการที่ผ่านมา TRP มีอัตรากำไรสูงกว่าเจ้าอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ TRP อยู่เหนือกว่าคู่แข่ง ?

ลองมาดูผลประกอบการย้อนหลังของ TRP จะพบว่า

ปี 2563 รายได้ 221 ล้านบาท กำไร 37.15 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 427 ล้านบาท กำไร 112.68  ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 853 ล้านบาท กำไร 270.27 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่า รายได้และกำไรของ TRP นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุมาจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายลง

151A5101.jpg

 

นพ.คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล กรรมการบริษัท/ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ กล่าวว่า

 

“การบริการของ TRP เป็นงานฝืมือ พอเป็นงานฝีมือ มันก็จะมีต้นทุนด้านอื่นๆน้อย  Fix Cost น้อย

 

และด้วยความที่เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีเทคนิควิธีการเฉพาะตัว เรามอบคุณภาพที่แตกต่าง เราให้ ของดี วัสดุดี ฝีมือการผ่าตัดที่ดี การดูแลบริการที่ดี  ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในธีรพรคลินิก มีกำลังในการจ่าย และพร้อมบอกต่อ  สิ่งเหล่านี้ทำให้ทำให้บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการที่ดีได้”

 

มองอนาคตธุรกิจ หรือเทรนด์การศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าในไทย ว่าจะไปในทิศทางใด

นพ.ชลธิศ ให้ความเห็นว่า 

 

“เหล่าบรรดาคุณหมอเฉพาะทาง หรือ Specialist ที่ดูแลเกี่ยวกับใบหน้าเริ่มจะมาศึกษาเรื่องศัลยกรรมตกแต่งกันแล้ว หมายความว่า ธุรกิจการทำศัลยกรรมจะเติบโตอย่างมีคุณภาพ

 

ทางด้านกลุ่มลูกค้าเอง ก็จะเริ่มละเอียดละออ พยายามศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น แล้วก็จะค้นหา TRP เจอมากขึ้น

 

แล้วคนที่มาใช้บริการก็จะเป็น Word of Mouth ให้แก่ TRP เหมือนที่เคยเป็นมา” นพ.ชลธิศปิดท้าย

 

ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า การบอกต่อๆกันในกลุ่มลูกค้า คือ เครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังมากที่สุด และมันได้กลายมาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ “ธีรพรคลินิก” มายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้

 

หากเราดูเบื้องหลังความสำเร็จของธีรพรคลินิก ก็จะเห็นถึงอนาคตที่สดใส เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งรวมแพทย์เฉพาะทางบนใบหน้าแล้ว 

 

ยังมีการตลาดที่มากด้วยประสิทธิภาพมาเสริมความแกร่งให้แก่ธุรกิจ แถมสอดคล้องกับกระแสโลกอนาคตอย่างสังคมผู้สูงอายุอีก

 

TRP จะเติบโตต่อไปได้อีกไกลเพียงใด เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง