พ่อแม่ชาวไทย รักและห่วงลูกไม่แพ้ชาติใดในโลก เป็นพ่อแม่ที่จัดเต็มลูกรักตั้งแต่แรกเกิด ฝากท้องอย่างดี คลอดอย่างดี หมออย่างดี (อันนี้ผมก็ทำ) และเป็นพ่อแม่ที่ "ตีค่าการศึกษาลูก" สูงเวอร์อย่างยิ่ง

-> เด็กเพิ่งเดินแข็ง ก็ส่งเข้าเนอสเซอรี่ ปีและ 8 หมื่น กลัวลูกจะพัฒนาการช้า กลายเป็นส่งลูกอายุน้อยเกินไปติดหวัดที่โรงเรียน เพราะเด็กยังไม่มีภูมิต้านทาน

-> อนุบาลยันประถม จัดเต็ม ทั้งใน นอกหลักสูตร วาดภาพ จินตคณิต ว่ายน้ำ ไวโอลิน ภาษาอังกฤษ จีน ไทย เทควันโด้ อูคูเลเล่ ฯลฯ กลัวลูกจะเก่งไม่รอบด้าน กลัวจะน้อยหน้าเด็กข้างบ้าน ลูกเลิกเรียนเดินแทบไม่ตรงทาง (ผมว่า เรียนได้ แต่อย่าเยอะจัด จนเด็กร้องขอกลับบ้านครับ)

-> มัธยม คราวนี้หนักเลย เรียนพิเศษทุกเย็นที่สยาม เสาร์อาทิตย์ จัดเต็มวัน พ่อแม่ยอมทรมานไปนอนบนทางเดินตึกอ.อุ๊ ตึกสยามกิตติ์ เพื่อส่งข้าวส่งน้ำลูกรัก ปิดเทอมไม่มีพัก ส่งลูกเรียนซัมเมอร์ยุโรป ออสเตรลีย ทุกเทอม บางทีเด็กไม่อยากไป พ่อแม่นี่แหละดันก้นให้ไป

บางบ้านหมดเงินกับลูกปีละ 6-7 แสน ยังไม่ทันเข้ามหาลัยกดไปเป็นสิบล้าน!!! ปัญหาคือ คุณค่าของใบปริญญา ... พ่อแม่ กับ นายจ้าง มองไม่เท่ากันครับ พ่อแม่ชาวไทย ตีค่าใบปริญญาลูกรักสูงมาก เพราะอยู่ในกระบวนการจ่าย จ่าย จ่าย และ จ่าย มาอย่างยากลำบาก ยาวนาน 20 ปี 

นายจ้าง กลับตีค่าไม่สูงเลยครับ คำถามใหญ่ของเขามี 3 คำถาม คือ

1. ลูกคุณทำอะไรเป็นบ้าง 
2. ลูกคุณเคยทำอะไรสำเร็จมาบ้าง และ
3. ลูกคุณจะมาสร้างความสำเร็จอะไรให้ที่นี่

อย่าลืมว่า ยุคนี้คือ ตลาดแรงงานที่เปิดกว้าง เด็กอินเดีย ปากี พร้อมจะบินมาทำงานที่กรุงเทพ เขียนโค้ด เขียนโปรแกรม เป็นไฟ แถมขยันขันแข็ง 

เด็กฟิลิปปินส์ อินโด พร้อมจะบินมาทำงานที่กรุงเทพ พวกเขาภาษาดีมาก ลอจิกดี คุมโปรเจคต์ไม่แพ้ฝรั่ง

เด็กจีน ...ไม่ต้องพูดถึง ความขยันอ่าน ขยันขายของ ขยันพบลูกค้า ใจสู้ ไม่เป็นรองใคร พวกนี้คือยอดเซลล์แมน

ปริญญา มหาลัย คณะ มันเริ่มจะเบลอๆ ไม่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเด็กไทยต้องสอบสัมภาษณ์กับ Head Hunter สิงคโปร์ โดยมีนายจ้างเป็นฝรั่ง จีน ฮ่องกง คหสต. ผมคิดว่า พ่อแม่ สามารถประหยัดเงินบางส่วน เตรียมให้ลูกไว้ เริ่มทำธุรกิจ ได้ใช้ความพยายามลองผิดลองถูก ในการริเริ่ม Startup เผื่อเวลา จากการศึกษาที่จัดเต็ม(เกิน)ไป ให้เขาได้ลองเรียนรู้ ริเริ่ม ลองเขียนหนังสือ ลองเขียนโปรแกรมสร้างแอพ ลองรับงานแปล ลองขายของ ลองลงทุน ฯลฯ

ลองหาเงินด้วยตัวเองให้ได้ ก่อนที่เขาจะจบมหาลัย อันนี้ ช่วยเขาได้ ไม่แพ้การศึกษาที่แสนแพง พ่อแม่ได้ภูมิใจ ลูกได้ภูมิต้านทานและความแกร่งครับ

---------------------------------------------

สนใจคอร์สติวหุ้นรวยด้วย VI ของนิ้วโป้ง คลิก