ในปี 2566 การเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาประเทศไทย มีการฟื้นตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวจากต้นปีจนถึงกลาง ก.ค. มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยแล้วกว่า 14 ล้านคน โดยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยจะไปถึง 25-30 ล้านคนในปี 2566 นี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 30-35 ล้านคน ในปี 2567
และ ล่าสุด นโยบายเปิด Free visa เพื่อบูสต์เศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะยกเลิกการจัดทำวีซ่าของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย คาดว่าจะเป็นผลดีต่อตลาดท่องเที่ยวเพิ่มเติมขึ้นไปอีก โดยการกลับมาของนักท่องเที่ยวนี้เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมโรงแรม ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มพรีเมี่ยมที่กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อจะกลับมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
กองทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือกองรีท ที่โดดเด่น ที่ลงทุนในธุรกิจโรงแรมชั้นนำในกลุ่มนี้ คือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LH Hotel Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ LHHOTEL ล่าสุด รายงานผลประกอบการที่ฟื้นตัว จากโรงแรม 3 แห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21, โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ และ โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 ที่มีอัตราการเข้าพักสูงถึงประมาณ 90% สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 เมื่อเทียบกับปีก่อน และ LHHOTEL ได้จ่ายปันผลรวมสำหรับ 6 เดือนแรกของปีนี้สูงถึง 0.58 บาทต่อหน่วย
โดยในปีนี้ LHHOTEL เตรียมเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน 2 โรงแรมในพัทยา จากบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ในเครือ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ จึงมั่นใจได้ว่าจากความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ LHHOTEL เข้าลงทุน จะสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ซึ่งปัจจุบัน LHHOTEL ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทธุรกิจโรงแรมที่มีขนาดสินทรัพย์และมูลค่าตามราคาตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ฯ1
โดยทรัพย์สินที่เข้าลงทุนเพิ่มเติม 2 โครงการ ได้แก่ 1.โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ระยะเวลาการเช่าประมาณ 28 ปี มีพื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 73,057 ตารางเมตร และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 91% (ข้อมูล 1H ปี 2566) โดยเป็นโรงแรมใหม่ที่เพิ่งเปิดดำเนินงานเมื่อปี 2565
และ 2.โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ระยะเวลาการเช่าประมาณ 25 ปี รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 41,022 ตารางเมตร มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 91% (ข้อมูล 1H ปี 2566)

ปัจจุบันทรัพย์สินของ LHHOTEL ประกอบด้วยสิทธิการเช่า/เช่าช่วงของโรงแรม 3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลทอง ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และใจกลางแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้แก่
1. โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 มีพื้นที่รวมประมาณ 47,298 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกอโศก โดยอยู่ติดกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก ใกล้จุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ MRT สถานีสุขุมวิท และ BTS สถานีอโศก โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 88% (ข้อมูล 1H ปี 2566)
2. โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ มีพื้นที่รวมประมาณ 66,628 ตารางเมตร อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานี ราชดำริ อยู่ใกล้กับอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ และศูนย์ประชุมใจกลางเมือง โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 85% (ข้อมูล 1H ปี 2566)
3. โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 มีพื้นที่รวมประมาณ 42,920 ตารางเมตร อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ แวดล้อมไปด้วยศูนย์รวมร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ที่ขึ้นชื่อ ซึ่งได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 90% (ข้อมูล 1H ปี 2566)
จุดเด่นทรัพย์สินของ LHHOTEL ทั้ง 3 แห่ง คือเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวอยู่ในทำเลใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า ศูนย์การค้า และแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง ง่ายและสะดวกต่อการเดินทางในย่านเศรษฐกิจและศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำต่าง ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโรงแรม ในราคาที่คุ้มค่าคุ้มราคา
ขณะที่จุดเด่นของทรัพย์สินที่ LHHOTEL ลงทุนเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง คือ มีศักยภาพสูง เนื่องจากอยู่ในเมืองพัทยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา โดดเด่นด้วยดีไซน์ในธีมอวกาศแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่าง สวนน้ำอวกาศ Space Water Park ขนาดใหญ่กว่า 12,000 ตารางเมตร Convention Hall สุดทันสมัย รวมถึงสปาและออนเซ็นวิวทะเลแห่งแรกของประเทศไทย ส่วนโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา แหล่งช้อปปิ้งที่เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาคาร โรงภาพยนตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต อยู่ห่างจากชายหาดพัทยาเพียง 500 เมตร ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทะเล และสะดวกสบายในการเดินทางเข้าออกโรงแรมด้วย 3 ถนนเส้นหลัก
สำหรับผลการดำเนินงานของ LHHOTEL ล่าสุดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 มีการฟื้นตัวค่อนข้างดี สำหรับทรัพย์สินปัจจุบันอัตราการเข้าพักเฉลี่ยมีการฟื้นตัวและใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดแล้ว อัตราการเข้าพักเฉลี่ย อยู่ที่ 85%-90% โดยกองทรัสต์มีรายได้รวมครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ 568.41 ล้านบาท ซึ่งถือว่ากองทรัสต์กลับมามีผลประกอบการที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ภายหลังการคลี่คลายจากสถานการณ์โควิด
ขณะนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนของ LHHOTEL โดยมูลค่าทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมรวมไม่เกิน 9,800 ล้านบาท และจะมีการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 540 ล้านหน่วย และเงินกู้ยืมสถาบันการเงินวงเงินรวมไม่เกิน 4,500 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าว
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงแรมชั้นนำ ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตกับเทรนด์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปด้วยกัน….
คำเตือน: ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
Reference
- เอกสารและข้อมูลไฟลิ่งจาก ก.ล.ต .
- 1อ้างอิงข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 2566 LHHOTEL มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 12,481.58 ล้านบาท, มูลค่าตามราคาตลาด 6,347.45 ล้านบาท