รัฐบาลจีนกำลังลงทุนอย่างหนักในการลดภาวะกำลังการผลิตล้นตลาดโดยเริ่มจาก อุตสาหกรรมเหล็ก และอุตสาหกรรมถ่านหินเป็นเป้าหมายหลัก
สำนักข่าว China Daily รายงานว่า ทางการจีนจะไม่อนุมัติให้มีการเปิดเหมืองถ่านหินใหม่จนกว่าจะถึงสิ้นปี 2019 โดยจะดำเนินการลดกำลังการผลิตกว่า 500 ล้านตัน และปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ให้มีการรวมกำลังการผลิตเพิ่มอีก 500 ล้านตัน เข้าไปสู่มือผู้ที่สามารถผลิตด้วยประสิทธิภาพสูงกว่า ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 3-5 ปีข้างหน้า
รัฐบาลจีนสนับสนุนให้มีการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมผลิตถ่านหิน เพื่อให้บริษัทผู้ผลิตและบริหารเหมืองมีขีดความสามารถสูงขึ้น และยังเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมลงทุนมากขึ้นด้วย
ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในเมืองจีน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของแหล่งพลังงานทั้งหมด ประมาณการโดย US Energy Information Administration หรือ EIA จีนใช้ถ่านหินไปมาก เพื่อหล่อเลี้ยงความต้องการพลังงานที่เพิ่มมากขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจในรอบ 30 กว่าปีที่ผ่านมา
เมื่อเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจให้ลดบทบาทด้านการผลิตในอุตสาหกรรมลง ไปเป็นการเติบโตภาคบริการมากขึ้น กำลังการผลิตถ่านหินที่จีนเคยมีสูง ก็กลายเป็นมีมากเกินความต้องการและอยู่ในสภาวะล้นตลาดไป
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จีนลดกำลังการผลิตถ่านหินไปแล้วกว่า 560 ล้านตันและปิดเหมืองถ่านหินไปแล้ว 7,250 เหมือง แต่ปัจจุบันยังคงมีเหมืองอยู่อีก 11,000 เหมืองด้วยกำลังการผลิต 5.7 พันล้านตัน
ในอนาคตข้างหน้า สัดส่วนการใช้พลังงานจากถ่านหินในจีนมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องแม้จะยังเป็นแหล่งพลังงานที่สูงที่สุดอยู่ก็ตาม จากนโนบายผลักดันการใช้พลังงานสะอาดเพื่อแก้ปัญหามลพิษในจีนให้มากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก China Daily
ขอบคุณภาพจาก econews.com.au
บทความโดย บูม / FB: MoneyCrown