เชื่อว่านักลงทุนจำนวนมาก เข้าใจบริบทของโลกว่ากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านขั้วอำนาจของโลกใหม่
จากเดิมเป็นสหรัฐอเมริกา ที่มีจีนเข้ามาท้าทายมากขึ้น
อย่างที่เราเห็นได้ชัด คือ เรื่อง Trade War

ในภาษาวิชาการ จะมีคำเรียกเหตุการณ์นี้ว่า กับดักธูสิดีดิส(Thucydide Trap)
คือ ภาวะความกลัวของประเทศมหาอำนาจเก่าที่เกิดจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของมหาอำนาจใหม่ทั้งทางเศรษฐกิจ นวัตกรรม รวมถึงอำนาจทางทหารจนสามารถทัดเทียมอำนาจเก่าได้ 
ซึ่งมักจะลงเอยด้วยภาวะสงคราม และการเปลี่ยนผ่านขั้วอำนาจที่ควบคุมเวทีโลก (New World Order)

คำถาม คือ เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 
เราในฐานะนักลงทุน จะมองหาโอกาสอย่างไร ? 
บทวิเคราะห์จากหลักทรัพย์เคจีไอ แนะนำว่าประเทศทางฝั่งตะวันออก
คือเอเชีย จะเป็นโอกาสทางการลงทุนที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน อินโดนีเซีย และอินเดีย

IMF คาดว่า GDP ของจีนจะแซงหน้าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ภายในปี 2030
สอดคล้องกับความเห็นของบทวิเคราะห์ Bridgewater Associate ที่มองว่าจีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของโลกและกำลังท้าทายสหรัฐอเมริกา
บทวิเคราะห์ เชื่อมั่นว่า จีนและประเทศในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ รัสเซัย มีศักยภาพมากเพียงพอจะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจระดับกลางได้ในเร็ววันนี้ (Middle Power)

ยิ่งไปกว่านั้น ภายในปี 2050 ประเทศที่จะขับเคลื่อน GDP โลกล้วนแต่เป็นประเทศในแถบเอเชียทั้งสิ้น นำโดย อินเดีย จีน และอินโดนีเซีย ที่จะกลายเป็นสัดส่วน GDP หลักของโลกในระยะต่อไป

ประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงอำนาจโลกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนช่วงเวลาตลอดระยะเวลาประวัติศาสตร์ที่่านมา
สิ่งที่เราจะทำได้ คือ รับความเปลี่ยนแปลงนั้น โดยเฉพาะการเลือกลงทุนในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีนและอินโดนีเซีย 
รวมถึงการถือครองทรัพย์สินอย่าง "ทองคำ" 
เพื่อรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ ...