เวลาที่เราเจอเพื่อน  เราชอบที่จะทักกันว่า สบายดีไหม ? 
ป๊าก็จะตอบไปว่าสบายดีครับ จะไม่ยอมมีความทุกข์แม้แต่วินาทีเดียว 
ยิ่งตอนนี้พอมีเวลาคิดมากขึ้น มานั่งคิดวนๆๆไป เริ่มค้นหานิยามของความสุขที่แท้จริง เพื่อที่จะได้ไม่พลาดเป้า ไม่เสียเวลา (เพราะว่าเวลาเหลือน้อยอยู่แล้ว)

เราต้องยอมรับการมาของความสุขกับความทุกข์ให้ได้มากกว่าเดิม ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป 
เราต้องมีหัวใจที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ดีๆเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เข้ามาทำให้เราทุกข์ อยู่ดีๆไปตรวจร่างกายเจออะไรเข้า อยู่ดีๆก็ปิดเมืองเพราะ covid อยู่ดีๆคนที่เคยรักกันกลับมาเกลียดกัน 
แต่หัวใจที่มั่นคงของเราจะทำให้เราดำรงตนอยู่ท่ามกลางพายุนั้นได้แบบสบายๆ

แน่นอนว่าชีวิตคนเราจะมีความทุกข์และความสุขจะสลับเข้ามากันเรื่อยๆ 
“แต่หัวใจที่มั่นคง” จะไม่ทำให้เราฟูหรือแฟบมากจนเกินไป 
ถ้าเจอเรื่องร้ายๆ ”หัวใจที่มั่นคงของเรา” ก็ไม่ทำให้เราดำดิ่งจนเกินไปทั้งๆ ที่บางคนไม่สามารถพลิกกลับมาได้เลย

“หัวใจที่มั่นคง” มันเกิดจากการที่เราผ่านมาเยอะทั้งสุข และทุกข์นั่นเองครับ จนพูดติดปากว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ชีวิตไม่ได้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการหรอกครับ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เราก็ได้รับมอบคืนให้ 
ในวันที่แย่ๆชีวิตก็ยังมีสิ่งดีๆหล่อเลี้ยงเรา และในวันที่ดีๆก็มีสิ่งแย่ๆหลงเข้ามา 
มันเป็นโจทย์ที่ธรรมดามากที่ชีวิตโยนใส่เรา เรามีหน้าที่หาสมดุลย์ในชีวิตไปเรื่อยๆนะครับ

อีกองค์ประกอบหนึ่งนอกจาก”หัวใจที่มั่นคง”แล้ว คือเราต้องมี”สติ” เรารู้ตัวเราอยู่ตลอดเวลา 
สติมันเหมือนกับปุ่ม PAUSE หรือปุ่มหยุด ที่ทำให้เราหยุดแป๊บหนึ่งเพื่อพิจารณาไม่ให้ดิ่งลงมากเกินไป ไม่ให้เราฟูมฟายมากจนเกินไป ให้เราอยู่กับปัจจุบัน ให้เราสุขเท่าที่ควรและทุกข์เท่าที่จำเป็นนะครับ

สรุปหัวข้อหลักๆที่ทำให้เรามีความสุขได้ดังนี้ครับ

1. คนเราจะมีความสุขได้ เราต้องเข้าใจตัวเองเข้าใจจุดดี จุดด้อย ของตัวเราเองเพื่อที่จะยอมรับสิ่งดีๆ และสิ่งที่ไม่ดีที่เข้ามา 
2. ยอมรับความจริง เราจะได้ยอมรับสถานการณ์ที่เข้ามา แบบความจริง จะได้ไม่สุขมาก หรือทุกข์มาก
3. ไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบ ถ้าหากไม่คาดหวังสูงเราก็จะมีความสุขได้ง่ายขึ้น
4. การเห็นความดีงามของสิ่งธรรมดา คือการมีชีวิตแบบธรรมดามันมีค่าคู่ควรมากๆ ใช้ชีวิต Minimalist มีความสุขกับสิ่งธรรมดาๆ
5. ให้ความหมาย ให้คุณค่าในสิ่งที่เราทำ ที่เราคิด ที่เราลงมือทำ
.
6. ต้องรู้จัก ”ให้อภัย “ เราก็ทำเพื่อที่จะปลดปล่อยหลุมดำในใจเรา ยิ่งถ้าเราเกลียดใคร เราก็จะยิ่งตาม ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งเครียดแค้น ถ้าเราให้อภัยได้มันคือจบ ความสุขก็บังเกิด
7. ยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น ถ้าฝึกบ่อยๆเราจะมี มุฐิตาจิต มีมิตรที่ดีต่อกัน
8. ให้ลงมือทำในสิ่งที่อยากทำ มันจะได้ไม่คาใจ หลายครั้งที่ความทุกข์บังเกิดเพราะมันยังคาใจอยู่
9. หมั่นขอบคุณสิ่งต่างอยู่เสมอ
10. ให้นิยามความสุขของตัวเองขึ้นมา หลายครั้งเราโดนยัดเยียดแนวทางของชีวิต โดยเราไม่มีจุดยืน เราควรหานิยามของความสุขของตัวเอง

ที่ป๊าไปพยายามหานิยามของความสุข เพราะป๊าไม่อยากให้พลาดเป้าหมายชีวิตและไม่อยากให้เสียเวลาชีวิต (อยากสุขให้มากขึ้น) 
บางทีมีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เข้ามา บางทีก็ขังตัวอยู่กับบ้าน 
สุดท้ายแล้วโดยสรุปได้นิยามที่เขาสอนกันมานาน และง่ายๆที่สุดเลยคือ “ไม่ทุกข์ก็สุขแล้วครับ”