สรุปปัญหาหุ้น STARK
เกิดอะไรขึ้นทางบัญชี แบบเข้าใจง่าย
1. เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า STARK มีการตกแต่งบัญชีโดยจะเน้นไปที่การสร้างยอดขายปลอม
เพื่อให้ยอดขาย รายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด
2. การสร้างยอดขายปลอม คือ สร้างว่ามีคำสั่งซื้อมาจริง แต่ไม่มีการจ่ายเงินจริง
เมื่อไม่มีเงินสดเข้าบริษัท ทำให้คำสั่งซื้อเหล่านี้อยู่ในส่วนของลูกหนี้การค้า
พูดง่ายๆ คือ มีลูกค้าจริง แต่ลูกค้าติดเงินบริษัทอยู่จำนวนมาก
3. การสร้างยอดขายปลอม สร้างมาตั้งแต่ปี 2563 แล้ว (ช่วงที่กำไรพุ่งจาก 123 ล้านเป็นกำไร 1.6 พันล้าน)
4. นอกจากยอดขายจะปลอมแล้ว รายจ่ายก็ต้องปลอม จ่ายภาษีก็ปลอมตามไปด้วย
โดยรายจ่ายปลอม คือ ประเด็นสำคัญที่จะทำให้เงินออกจากบริษัทแบบเนียนๆ ...
STARK มีการลงบัญชีจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อซื้อวัตถุดิบสินค้า (เงินสดออกจากบริษัท)
ในขณะที่รายได้ ก็บันทึกเป็นลูกหนี้การค้า
5. เงินสดที่โอนออกเพื่อซื้อสินค้า วิ่งไปที่ บริษัท เอเชีย แปซิฟิกดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
และบริษัท เอเชีย แปซิฟิกดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ก็นำเงินส่วนนี้วนกลับมาซื้อสินค้าปลอมจาก STARK ต่ออีกทีหนึ่ง
6. สุดท้ายถูกจับได้ จึงมีการแก้บัญชีใหม่ พบว่า ...
... กำไรที่พุ่งขึ้นมาระดับ 2-3 พันล้านในปี 2564 - 2565 ถ้ามีการทำบัญชีใหม่จะขาดทุนมากถึง 1.23 หมื่นล้านบาท
... ส่วนผู้ถือหุ้น -4.41 พันล้านบาท (จากเดิม +8.63 พันล้านบาท)
คำถามต่อมา คือ บทสรุปของหุ้น STARK จะเป็นอย่างไร
ว่ากันตามกฏหมายแล้ว STARK น่าจะต้องขอยื่นต่อศาลล้มละลาย เพื่อเข้ากระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไป
ส่วนในแง่ของราคาหุ้นน่าจะถูกหยุดซื้อขายซึ่งไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกทีเมื่อไร หรืออาจจะไม่เห็นอีกต่อไปเลยก็เป็นได้
ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ตลาดหุ้น ที่นักลงทุนต้องจดจำเอาไว้
หรือจะถูกลืมเลื่อนไปตามกาลเวลา ก็ขึ้นอยุ่กับนักลงทุนแล้วครับ ...