Berkshire Hathaway เก็บหุ้นท่อส่งน้ำมันตัวใหม่ - Kinder Morgan
สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานจาก SEC Filing ของ Berkshire Hathaway ว่าบริษัทเข้าซื้อหุ้น Kinder Morgan กว่า 26.5 ล้านหุ้นในไตรมาส 4 ปี 2015
โอกาสอยู่ที่ธุรกิจ "กลางน้ำ"
Kinder Morgan เป็นผู้บริหารเครือข่ายท่อส่งขนาดใหญ่สำหรับรองรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมหลากหลายชนิด พร้อมทั้งถังเก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้อีกด้วย นี่เป็นอีกหนึ่งบริษัทธุรกิจกลางน้ำ หรือ "Midstream" ที่ Berkshire Hathaway เข้าลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจกลางน้ำอย่าง Phillips 66 มาก่อนแล้ว
นอกจาก Phillips 66 และ Kinder Morgan แล้ว Berkshire Hathaway ในตอนนี้ยังถือหุ้นบริษัทน้ำมันครบวงจรแห่งแคนาดาอย่าง Suncor Energy อีกด้วย ถือว่า position ใหม่ของ Berkshire จะเริ่มเป็นธุรกิจพลังงานไฮโดรคาร์บอนมากขึ้นแล้ว
ดูไปแล้วธุรกิจกลางน้ำเป็นที่สนใจกันมากในกลุ่มนักลงทุนระดับโลก เพราะนอกจาก Berkshire Hathaway แล้วยังมีสุดยอดนักลงทุนอย่าง David Tepper ที่เข้าซื้อหุ้นธุรกิจกลางน้ำถึง 2 ตัวอย่าง Kinder Morgan และ Energy Transfer Partners ซึ่งมีสินทรัพย์เครือข่ายท่อส่งน้ำมันที่ขนาดใหญ่ทั้งคู่
ในช่วงราคาน้ำมันถูกลงมากแบบนี้ ทำให้ความต้องการใช้พลังงานจากปิโตรเลียมมีแนวโน้มสูงขึ้นได้ รวมถึงการกักตุนน้ำมันช่วงราคาถูกไว้สำหรับความมั่นคงพลังงานของประเทศคงจะมากพอให้ท่อส่งและถังเก็บยังต้องใช้ไปอีกนานต่อเนื่อง และมีแนวโน้มต้องสร้างเพิ่มด้วย
ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม OPEC ในช่วงสัปดาห์นี้เกิดขึ้นรวดเร็วและน่าสนใจทีเดียว เพราะภายใน 2 วันผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำของโลกอย่างซาอุดิอาระเบีย-รัสเซีย-อิหร่านซึ่งเพิ่งกลับเข้ามาในตลาดน้ำมันได้ใหม่ คุยกันแล้ว และอิหร่านยินดีที่จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้ราคาน้ำมัน โดยเห็นด้วยกับการคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดือนมกราคม
แต่สำนักข่าว BBC มองว่าไม่มีคำสัญญาใดๆจากอิหร่านว่าจะทำจริง และสุดท้ายเป็นแผนของซาอุดิอาระเบียเพื่อผลักภาระแรงกดดันลดกำลังการผลิตไปที่อิหร่านและยังได้กด US Shale ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สื่อทางอเมริกานำโดย Goldman Sachs ยังคงเดินหน้ามองราคาน้ำมันอาจมุ่งสู่ราคา $20 ต่อบาร์เรลต่อไป เพราะเหตุผลว่าแม้จะไม่เพิ่มกำลังการผลิต แต่ถ้าไม่ลดการผลิตไปเลย ก็ยังผลิตมากกว่าความต้องการอยู่ดี ดังนั้น องค์กรการเงินทรงอิทธิพลอย่าง Goldman ยังคงยืนยันไม่เปลี่ยน position ตัวเอง
เรื่องของ "Decline Rate" หรือการลดลงของการผลิตน้ำมันได้จากแหล่งน้ำมันที่มีอายุมากแล้ว ยังคงมีผลต่อ supply ทั่วโลก เมื่อบริษัทน้ำมันต้นน้ำของจีนอย่าง China National Offshore Oil Corporation (CNOOC) เพิ่งลงนามขายแก๊สจากแหล่งใหม่ไปให้บริษัทสาธารณูปโภคของฮ่องกงอย่าง CLP Utility Group เพราะแหล่งก๊าซเก่าเริ่มหมดลง
CNOOC ยังมีแผนที่จะสร้างท่อก๊าซอีกมากมายเชื่อมแหล่งก๊าซและแหล่งน้ำมันจากน้ำลึกในทะเลจีนใต้เข้าด้วยกัน เพราะความต้องการก๊าซมีสูงมากตามความต้องการใช้แหล่งพลังงานจีนที่สะอาดกว่าถ่านหิน
ราคาน้ำมันเวลานี้คงต่ำจริงจนถึงระดับเริ่มเข้าลงทุน สังเกตจากข้อมูลของนักลงทุนและบริษัทน้ำมันระดับโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก China Daily, Bloomberg
ขอบคุณภาพจาก Fortune.com
#MoneyCrown