มีคนถามว่า จะรู้ได้ไงว่าเวลาไหนควรล้างพอร์ต ?
เวลาที่มีคำถามลักษณะนี้ หรือเวลาที่ใครคิดจะล้างพอร์ต
จุดนั้นแหละมักจะเป็นจุดเริ่มต้นซื้อหุ้นในรอบใหม่
ความโหดร้ายของตลาดหุ้น มันคือจุดที่แย่ที่สุดของคนนึง
แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นโอกาสของอีกคนนึง
เรามาดู 5 ข้อควรรู้ ทำไมไม่ควรล้างพอร์ตแม้ว่าตลาดจะแย่แค่ไหนก็ตาม
1. ถ้าเรารู้ก่อน แปลว่ามันจะไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
ถ้าไปดู วิกฤตเศรษฐกิจใหญ่ มันจะมาในวันที่ตลาดดี และไม่มีใครเตรียมตัว
เช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ วิกฤตโควิด
2. ในเมื่อเราไม่ได้ขายตอนลงต้นรอบ
การขายเพียงบางส่วน จึงดีกว่าล้างพอร์ต
การขายบางส่วนหรือการปรับพอร์ตย่อมดีกว่า เพราะเราไม่ได้ขายตั้งแต่จุดที่เริ่มลง
3. จุดที่เรารู้สึกกลัวที่สุด มักเป็นจุดต่ำสุดของตลาด
แน่นอน การซื้อให้ได้ต่ำที่สุด ก็แปลว่า เราต้องซื้อในวันที่เรากลัวที่สุด
อาจทำได้บางส่วน แต่ถ้าเราคิดว่า เราจะซื้อได้เยอะๆ ในวันที่ต่ำสุด แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
4. การพลาดจุดซื้อในวันที่ต่ำที่สุด มันแทบจะเป็นกำไร 70% ของทั้งหมด
และนี่เป็นเหตุผลที่ว่า นักลงทุนระยะยาวส่วนใหญ่มักถือหุ้นตลอด
แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ตลาดไม่ดีก็ตาม เพราะเขาไม่อยากพลาด ผลตอบแทนที่มากที่สุดนั่นเอง
5. การขาย 10-20 % จึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่า ขายล้างพอร์ต
ก็เพราะ 10-20% ของพอร์ต มันคล่องตัวกว่า ในการจับจังหวะ
ซึ่งแค่ 10-20 % ของพอร์ต ที่ซื้อในจุดที่ต่ำ ก็ช่วยรักษาพอร์ตได้นั่นเอง
เอาจริงๆ คือ มันพูดง่ายนะ ว่าเราควรมีหุ้นอย่างน้อย 80% ตลอดเวลา
แต่การที่จะทำได้ คุณต้องเคยผ่านวิกฤตและเข้าใจตลาดเป็นอย่างดี
ซึ่งไม่ง่ายเลย ...